เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. สืบเนื่องจากนางเอ๋ อายุ 31 ปี ผู้เป็นแม่ได้พา ด.ญ.อ้อย ลูกสาวอายุ 14 ปี (ทั้งสองนามสมมุติ) อุ้มทารกน้อยเพศชายวัย 1 เดือนเศษ เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ด.ญ.อ้อย ถูกนายโอ่ง (นามสมมุติ) พ่อแท้ๆ อายุ 44 ปี ข่มขืนตั้งแต่อายุ 11 ขวบ จนตั้งครรภ์และคลอดลูกออกมา แม่เพิ่งรู้ข่าว เพราะอาศัยอยู่ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงแอบนัดไปรับลูกที่ จ.นครราชสีมา พากันมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เพราะต้องการเอาเรื่องพ่อแท้ๆ ให้ถึงที่สุด

หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อนัดหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาสองแม่ลูกและทารกน้อยเดินทางไป จ.นครราชสีมา ไปแจ้งความในวันที่ 15 มิ.ย. 67 เพื่อดำเนินคดีกับนายโอ่ง พ่อแท้ๆ พร้อมประสาน น.ส.ภัทรานิษฐ์ ก่อกุศล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้การคุ้มครองสวัสดิภาพสองแม่ลูกและทารกน้อย ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา

ล่าสุดวันนี้ นางปวีณา ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา ว่า พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนายโอ่ง พ่อแท้ๆ ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน” หลังสอบสหวิชาชีพเด็ก และทำการตรวจดีเอ็นเอทารก ขณะนี้ตำรวจจับกุมตัวนายโอ่งได้แล้ว อยู่ระหว่างการสอบสวน เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ซึ่งจะต้องรอผลดีเอ็นเอจากแพทย์ โดยตำรวจจะคุมตัวผู้ต้องหาฝากขังต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 22 มิ.ย. นี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว

นางปวีณา กล่าวว่า ห่วงใย ด.ญ.อ้อย คุณแม่วัยใส ที่เพิ่งอายุ 14 ปี อย่างยิ่ง เพราะวัยนี้สมควรจะได้เรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นๆ ซึ่ง ด.ญ.อ้อย เองก็อยากจะเรียนหนังสือต่อ จากนี้จะได้ประสาน ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อหาโรงเรียนที่เหมาะสมให้ และมูลนิธิปวีณาฯ จะร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ติดตามการช่วยเหลือด้านคุณภาพชีวิต และประสานรับเงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรมให้ต่อไป