เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยผลการจับกุมตัว นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 65 ปี ชาว กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 350/2567 ลงวันที่ 20 มิ.ย. 2567 ข้อหา “…ข่มขืนกระทำชำเรา โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถไม่ขัดขืนได้ อันเป็นการกระทำต่อหน้าธารกำนัล และเป็นการกระทำแก่บุคคลซึ่งไม่สามารถปกป้องตนเองอันเนื่องมาจากเป็นผู้มีจิตบกพร่อง, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ อันเป็นการกระทำต่อหน้าธารกำนัล และเป็นการกระทำแก่บุคคลซึ่งไม่สามารถปกป้องตนเองอันเนื่องมาจากจิตบกพร่อง, พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ…” บริเวณหน้าบ้านพักย่านพระโขนง กทม. โดยตำรวจ บก.สส.บชน. ร่วมกับ ตำรวจสืบสวน สน.พระขโนง จับกุมได้เมื่อวันที่ 20 มิ .ย. เวลา 17.30 น.

พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้บกพร่องทางจิต ถูกอนาจารด้วยการจับหน้าอก ขณะที่ผู้เสียหายเดินออกจากบ้านเพื่อไปซื้อของ โดยทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายเอ เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงบ้านพักของผู้เสียหาย ภายหลังพี่สาวของผู้เสียหายทราบเรื่อง จึงไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง และถูกจับกุมได้ในเวลา

เบื้องต้น นายเอ ให้การรับสารภาพว่า รู้จักและสนิทกับผู้เสียหายมานาน เนื่องจากพักอาศัยอยู่ใกล้กัน อ้างว่าไม่ทราบว่าผู้เสียหายมีความบกพร่องทางจิต ยอมรับว่าวันที่เกิดเหตุ ได้ใช้มือจับที่หน้าอกผู้เสียหายจริง เพราะสนิทกัน แต่ไม่ได้ล่วงละเมิดผู้เสียหายแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อ เพราะค้านกับพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ จากนั้นได้นำตัวส่ง สน.พระโขนง ดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นกับผู้เสียหายที่เป็นผู้อ่อนแอทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไม่สามารถป้องกันตนเองได้ เป็นสิ่งรับไม่ได้กับพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นอันตรายต่อสังคม แต่ก่อนเรามักจะเข้าใจว่าเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศมักจะต้องเกิดขึ้นในที่เปลี่ยว เวลากลางคืนเท่านั้น แต่ยังมีความเป็นจริงอีกส่วน ที่เหยื่อมักจะถูกกระทำโดยบุคคลที่รู้จัก หรือคุ้นเคย เพราะบุคคลเหล่านี้มักจะใช้โอกาสนี้ในการเข้าใกล้เหยื่อเพื่อล่วงละเมิดทางเพศ ดังนั้นผู้ปกครองควรใส่ใจ และคอยดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เรื่องอันเลวร้ายนี้เกิดขึ้นในครอบครัวของตนเอง.