ต่อมาพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ชี้แจงนายจุติ ไกรฤกษ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่อภิปรายเกี่ยวกับการจับนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด    ว่า หลังเกิดคดีแป้งนาโหนดได้มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ไปแล้วโดยให้ออกไป 3 คน ดำเนินคดีไป 5 คน กรมราชทัณฑ์สอบข้อเท็จจริงใกล้จะเสร็จแล้ว ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเมื่อเราจับแป้ง นาโหนดได้แล้วเขาก็เป็นต้องเป็นที่พูดข้อเท็จจริง 

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ขณะที่เรื่องยาเสพติดในช่วงที่เราเข้ามาเป็นรัฐบาลจนถึงปัจจุบันที่ผ่านมาแล้ว 8 เดือน มีผู้ต้องขังที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดลดลง วันนี้เราต้องแก้ไขเรื่องปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง ซึ่งเมื่อพวกเขาออกจากกรมราชทัณฑ์แล้ว เราต้องดูว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรไม่ให้พวกเขากระทำความผิดซ้ำอีก ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ตนต้องแก้ปัญหา เปลี่ยนคนที่อยู่ข้างกำแพงให้เข้าไปอยู่ในหมู่บ้านได้ ซึ่งหลังจากที่มีกฎหมายเกี่ยวกับเปลี่ยนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย ต้องรักษา ก็ทำให้รู้ว่ามีคนไม่สมัครใจ ยังเดินมาหาให้ถูกจับ เมื่อถูกจับศาลก็สั่งให้มีการคุมประพฤติ จึงเกิดเป็นช่องว่าง และบางคนก็ไม่ถูกสั่งคุมประพฤติพวกเขาก็จะกลับไปอยู่ในหมู่บ้านเหมือนเดิม เราจึงไปขอเงื่อนไขกับศาลเพิ่มโดยนำกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาร่วมด้วย หากใครที่ยังเป็นซอมบี้ ใครยังติดยาอยู่ เราจะขอนำตัวไปบำบัด 

“งบประมาณไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่เรื่องใหญ่ คือความตั้งใจจริงที่จะแก้ปัญหา เพราะเป็นวาระที่มีความท้าทาย และวันนี้หากคนไทยเรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลายในเรือนจำจะมีผู้ต้องขังไม่ถึงแสนคน หากคนไม่มีการศึกษาก็จะไม่มีอาชีพ วันนี้วาระของเราคือต้องเปลี่ยนเรือนจำ ราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติเป็นสถาบันปฏิรูปคนเอาคนมีคุณภาพออกมาให้สังคม ผมเชื่อว่าเรื่องของยาเสพติดไม่มีใครทำคนเดียว ยาเสพติดไม่กลัวทหาร ยาเสพติดไม่กลัวตำรวจ ยาเสพติดไม่กลัวกฎอัยการศึก ยาเสพติดไม่กลัวพระราชกำหนดฉุกเฉิน ยาเสพติดไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ยาเสพติดกลัวแม่ กลัวครอบครัวที่อบอุ่น กลัวความรัก กลัวสังคมที่เข้มแข็ง และผมติดว่าไม่มีอะไรที่ล้มเหลว สิ่งที่ล้มเหลวคือเราไม่ทำ ซึ่งผมจะระดมทรัพยากรทุกอย่างมาแก้ปัญหายาเสพติด” พ.ต.อ.ทวี กล่าว.