เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. นายธนารีย์ นัยนา หรือดุ่ย สาวประเภทสอง อายุ 54 ปี ชาว ต.เกาะเทโพ อ.เมือง จ.อุทัยธานี ได้ขอความช่วยเหลือผ่านผู้สื่อข่าว อยากให้ช่วยคืนความเป็นธรรมให้กับตัวเอง หลังถูกหนุ่มใต้ อายุประมาณ 30 ปี ที่รู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งคบหากันมาได้ประมาณ 1 เดือน ก่อเหตุสุดเหี้ยมรวมหัวกับแฟนสาวใช้ผ้ารัดคอ ซึ่งยังทิ้งร่องลอยแผลอยู่ ซ้ำยังใช้ยาพิษ (คาดว่าเป็นยาเบื่อหนู) กรอกปากซ้ำจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ต้องคลานออกจากห้องพักมาขอให้เพื่อนบ้านช่วยชีวิตไว้ได้ทัน ก่อนชิงเอา รถยนต์ โทรศัพท์มือ เงินสดประมาณ 15,000 บาท พร้อมเงินในแอปธนาคารอีก 800 บาท หลบหนีไป จึงอยากร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าวไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมตัวทั้ง 2 คน มาดำเนินคดี

นายดุ่ย เล่าว่า ตนเองนั้นได้รู้จักกับ นายอาม ซึ่งเป็นคนใต้ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนตกลงที่จะคบหากันในฐานะเป็นแฟนกันอย่างเปิดเผยมาเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนกว่า จากนั้นนายอาม ก็ได้กลับไปที่ จ.ตรัง ก่อนเดินทางกลับมาหาตนเองที่บ้านพักหลังเกิดเหตุที่ จ.อุทัยธานี อีกครั้งเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สุดสะเทือนใจขึ้น

“นายอามนั้น ได้มาหาตนเองที่ห้องพัก พร้อมกับบอกว่า ได้ซื้อขนมเค้กจากเมืองตรังมาฝากด้วยจำนวน 2 กล่อง ก่อนตนเองนั้นพบว่า นายอาม มีผู้หญิงเดินทางมาด้วย ซึ่งทางนายอาม นั้นอ้างว่า หญิงคนนี้เป็นน้องสาว แต่ตนเองนั้นไม่เชื่อเพราะดูจากพฤติกรรมของทั้ง 2 คนแล้วนั้น น่าจะเป็นแฟนกันมากกว่า ตนเองจึงตัดสินใจถามทั้งคู่ไปตรงด้วยอารมณ์หึงหวง จนเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ก่อนที่ทางนายอาม ได้พูดขึ้นว่า มึงอยากไล่กูมานานแล้วใช่ไหม ก่อนคว้าผ้าขาวม้าที่แขวนอยู่มารัดคอตนเองอย่างรุนแรงจนเกือบจะหมดลม จากนั้นหญิงสาวที่มาด้วยกับนายอาม ได้นำผงบางอย่าง ซึ่งตนเองคาดว่าเป็นยาพิษกรอกซ้ำลงไปในคอของตน พร้อมกับบังคับให้กลืนลงไป จนตัวเองหมดแรงฟุบลง ก่อนรวบรวมสติคลานออกมาขอความช่วยเหลือกับเพื่อนบ้าน จนรอดชีวิตมาได้ หลังรักษาตัวจนหายจึงได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุทัยธานี” นายดุ่ย กล่าว

นายดุ่ย กล่าวต่อว่า หลังจากที่ทั้งคู่ได้ลงมือก่อเหตุทำร้ายตนเองเสร็จ ก็พากันวิ่งออกจากห้องไปพร้อมกับขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีเทา ทะเบียน กต. 2301 อุทัยธานี ของตนเองออกไป รวมถึงเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าอีก จำนวน 15,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง มูลค่าประมาณ 6,000 บาท และเงินในแอปธนาคารอีก 800 บาท ส่วนเค้ก 2 ชิ้น ที่นายอาม ซื้อมาให้นั้น ขอเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน เผื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำไปตรวจดูว่ามียาพิษปนเปื้อนอยู่ด้วยหรือไม่ เพราะมั่นใจว่า ทั้งคู่นั้นน่าจะเตรียมการมาเพื่อก่อเหตุอย่างแน่นอน เพราะวันเกิดเหตุมียาพิษมาด้วย

ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านของนายดุ่ย ก็ได้เปิดเผยถึงวันที่เกิดเหตุให้ฟังว่า วันนั้นนายดุ่ย มาเคาะประตูขอความช่วยเหลือด้วยเสียงอันแผ่วเบาคล้ายคนหมดแรง พอเปิดประตูมาก็เจอนายดุ่ย บอกว่า ช่วยโทรฯแจ้งตำรวจและเรียกรถพยาบาลให้ จนสามารถช่วยชีวิตได้ดังกล่าว

ด้าน นายบี (นามสมมุติ) เพื่อนบ้านอีกคน ก็เปิดเผยว่า วันนั้นไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น ก่อนมารู้ทีหลังว่านายดุ่ย นั้นถูกกรอกยาและถูกขโมยรถยนต์ไป แต่ก่อนเกิดเหตุนั้น ตนเองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งวัยประมาณ 30 ปี มายืนอยู่ข้างบ้านนายดุ่ย คล้ายกับเหมือนจะดูต้นทาง ท่าทางมีพิรุธ แต่ตอนเกิดเหตุก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เพราะปิดบ้านอยู่กันจึงไม่ค่อยได้ยินเสียง.