สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 66 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ OUR RESCUE ดำเนินการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 37/2566 กรณีชายไทยอายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ซึ่งมีพฤติการณ์โฆษณาขายสื่อลามกอนาจารเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ในแพลตฟอร์มไลน์ โดยพบหลักฐานเป็นไฟล์ภาพลามกอนาจารเด็กเป็นจำนวนมาก ต่อมาพนักงานอัยการได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาในความผิดฐาน ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น เพื่อความประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้าเพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กประกอบการค้าหรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชนให้เช่าสื่อลามกอนาจารเด็ก นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287/1 มาตรา 287/2 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) มาตรา 14 (4) (5) โฆษณาเชิญชวนให้สมัครเข้ากลุ่มไลน์เพื่อดูสื่อลามกอนาจาร และแสวงหาประโยชน์จากการผลิตและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.67 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยส่วนประชาสัมพันธ์ ได้รายงานผลความคืบหน้ากรณีคดีพิเศษดังกล่าว ว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 67 ศาลอาญา ได้พิพากษาจำคุกจำเลย 8 ปี แต่เนื่องจากจำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้เหลือจำคุก 4 ปี และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหาย จำนวน 5 ราย รวมเป็นเงินกว่า 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปีนับแต่วันฟ้อง ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอแจ้งให้ประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อการแชร์ภาพลามกอนาจาร สามารถแจ้งข้อมูลไปยังส่วนคดีละเมิดทางเพศเด็ก กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ข้อมูลของท่านจะถูกเก็บรักษาเป็นความลับ หรือโทร. สายด่วน 1202 (ฟรีทั่วประเทศ) หรือเเจ้งได้ที่ www.dsi.go.th