ในความขัดแย้งของ 2 บิ๊กตำรวจไม่ใช่เพียง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ที่ต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย ฝ่าย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เองก็เจอกับมรสุมหลายลูก จากฉายา แมว 9 ชีวิต เรียกว่าใช้แต่ละชีวิตได้คุ้มค่า

‘วิษณุ’ แถลงจบศึก 2 บิ๊กสีกากี ส่ง ‘บิ๊กต่อ’ กลับนั่งผบ.ตร. ‘บิ๊กโจ๊ก’ ยังไม่ออกราชการ

โดยในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตการเป็นตำรวจของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะในวันที่ 9 เม.ย. 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ขาดจากตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุผลที่ไม่เคยถูกเปิดเผย แม้จะเป็นที่รู้กันว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นคนสนิทของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ส่วนเหตุการณ์ที่ทำให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หัวเสียสุดๆ คือการบุกค้นบ้าน ซึ่งเป็นการขยายผลจากคดีของลูกน้องคนสนิท ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหตุผลที่ต้องโกรธมากก็เพราะอีกเพียง 2 วันเท่านั้นที่จะได้รู้ผล ผบ.ตร.คนใหม่ ที่ตัวเองเป็นแคนดิเดตเข้าชิง

สำหรับการบุกค้นครั้งนี้ยังเรียกได้ว่าเป็นการเปิดหน้าฝ่ายตรงข้ามของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อย่างชัดเจน เพราะหลังจากนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เองก็เดินหน้าฟ้องกลับทุกหน่วย ทุกคนที่เข้ามาบุกค้นบ้านตนเอง และมรสุมที่ทำให้สะเทือนตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. คือการถูกซัดทอดว่าเงินที่ใช้จ่ายส่วนตัวและครอบครัวมาจากเว็บพนันออนไลน์เดียวกันกับที่ลูกน้องโดนคดี มรสุมลูกนี้กระทบตัวของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อย่างรุนแรง เพราะเป็นเหตุผลหลักที่ถูกเขี่ยออกจาก ตร.

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ไม่มีชื่อในการกลับมาครั้งนี้ เหตุเพราะนายกฯ เคยออกคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กลับมาที่ ตร. ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. 2567 แล้ว และในวันเดียวกันนั้น ก็มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนทันที ดังนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงขึ้นชื่อว่าได้กลับมาที่ ตร.แล้ว

อย่างไรก็ตาม การจะได้กลับเข้ามาทำงานในรั้วปทุมวันจริงๆ ได้หรือไม่ ต้องรอดูผลสอบคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ร้องสอบคำสั่งให้ออกจากราชการว่าไม่ชอบ สุดท้ายจะจบที่คำตอบใด โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เหลืออายุราชการจนถึงปี 2574