เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ในวาระแรก เป็นวันที่ 2  

นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สส.กาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า สิ่งที่เป็นกังวลคือภาวะเศรษฐกิจของประเทศ วันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่จะนําพาให้เศรษฐกิจ นอกเหนือรายได้ที่เราได้รับจากการท่องเที่ยว เหมือนในช่วงรัฐบาลที่ผ่านมา คือภาคส่วนของอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจัยที่จะทําให้อุตสาหกรรม มีความเจริญเติบโตงอกงาม หนีไม่พ้นในส่วนของเรื่องต้นทุนที่ประเทศเรามีนั่นคือแรงงาน มั่นใจเหลือเกินว่าประเทศเรานั้นมีทรัพยากรที่พร้อมที่ดีในทุกด้าน แต่ยังขาดเล็กน้อย คือขาดการส่งเสริมทักษะบุคลากร ที่เราใช้คําว่าแรงงาน หรือบุคลากรของเรายังต้องการความรู้ ยังต้องการทักษะที่ชัดเจน

นายยศวัฒน์ กล่าวว่า การศึกษาเราวนอยู่อย่างเดิม งบประมาณไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ เพราะเป็นรายจ่ายประจําสูง วันนี้ไม่ใช่มีเพียงแค่ส่วนของการศึกษาที่เป็นต้นทุนที่สําคัญตามที่เรารู้กัน เรายังมีกระทรวงแรงงาน ที่จะต้องรองรับในแนวทางที่ท่านนายกรัฐมนตรี รัฐบาล ได้หวังว่า เราจะเป็นประเทศใหม่ ประเทศแห่งอุตสาหกรรม เป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรม แต่เราจะประสบความสําเร็จได้ เราต้องเริ่มต้นที่จุดแรก นั่นก็คือเรื่องของการศึกษา เพราะว่าภาคอุตสาหกรรม ไม่ใช่มีเพียงแค่ AI ไม่ใช่เพียงแค่อุตสาหกรรมเทคโนโลยี นักศึกษาได้เรียนจบมาแล้วยังจะต้องอัพสกิลให้เฉพาะทาง อันนี้คือสิ่งที่สําคัญ ตนจึงอยากจะฝากนายกรัฐมนตรี และสํานักงบประมาณ ว่า วันนี้เราจะก้าวไปให้ถึงในสิ่งที่รัฐบาลตั้งเป้าเอาไว้ นั่นก็คือเป็นประเทศเป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรม มั่นใจว่าไม่ยาก แต่ขออย่างเดียวขอให้หันมาพิจารณาใหม่ว่าเราควรจะเริ่มต้นอย่างไร คนไทยนั้นมีความรู้ความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก ตนมั่นใจว่ายังคงใช้ได้อยู่

นายยศวัฒน์ กล่าวว่า สุดท้ายนี้ ถ้าวันนั้นมาถึงจริง เป็นวันที่ประเทศไทยของเราจะเป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรมของโลก จ.กาญจนบุรี ของตนใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ มีทรัพยากรธรรมชาติที่สร้างรายได้ที่ผ่านมา ในส่วนของการท่องเที่ยวได้เป็นลําดับต้นๆ วันนี้ จ.กาญจนบุรี ก็มีความพร้อมที่จะรองรับ และเชื่อมั่นว่าวันนี้เราสามารถทําได้.