จากกรณี รัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบและผู้บริหาร we are model เข้าปรึกษาขอความช่วยเหลือด้านกฎหมายกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายคลายทุกข์ หลังถูกอดีตนักแสดงสาวชื่อดัง “ป.” ยืมเงิน 2 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะนำเงินไปลงทุนธุรกิจกระเป๋า โดยมีการทำสัญญากู้ยืมเงิน เมื่อครบกำหนดชำระ จากนั้นได้มีการนำเช็คเงินสด 2 ล้านบาทมาคืนให้ แต่ถูกธนาคารปฏิเสธไม่สามารถถอนได้ เมื่อทวงถามกลับถูกบ่ายเบี่ยง ก่อนเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ทองหล่อ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ สน.ทองหล่อ น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง พร้อมด้วย รัศมี ทองสิริไพรศรี หรือ ลูกหมี นางแบบสาว เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.เปรม ชำนาญดู รอง สว. (สอบสวน) สน.ทองหล่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี

ภายหลังเข้าพบตำรวจ ทนายกุ้ง เปิดเผยว่า วันนี้ตนในฐานะทนายและลูกความ คือคุณลูกหมี เดินทางมาเนื่องจากตำรวจได้มีการออกหมายเรียกคู่กรณีมาทำการเจรจาไกล่เกลี่ย ซึ่งทางผู้เสียหายก็มีความประสงค์ที่จะให้เกิดการเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อหาทางออกเพราะทางผู้เสียหายก็อยากได้เงินคืนมา แต่วันนี้คู่กรณีไม่ได้มาตามนัด โดยก่อนหน้าที่จะถึงวันนัด ทนายความของคู่กรณี ได้เดินทางมายื่นเอกสารชี้แจงเป็นใบรับรองแพทย์ว่าตัวดาราสาวมีความเครียดและไม่สบาย ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ทำให้ไม่สามารถมาตามนัดหมายได้ จึงขอเลื่อนการเข้าพบไปก่อน แต่จะมาในวันใดนั้น ต้องรอทางตำรวจแจ้งอีกที

“ลูกหมี รัศมี”ไม่ทนพึ่งก.ม.ช่วย หลังดาราสาวเมียนักการเมืองชื่อดังยืมเงิน2ล้านไม่คืน

ทนายกุ้ง กล่าวต่ออีกว่า นอกจากกรณีของคุณลูกหมีแล้ว ยังมีผู้เสียหายรายอื่นๆ ปรากฏตัวเพิ่มเติม รวมกว่า 6 ราย โดยมียอดมูลค่าความเสียหายกว่า 16 ล้านบาท เช่น น.ส.วันมะนี พอนสะหวัน หรือ น.ส.ลินลี่ นักแสดง และนางแบบสาว ซึ่งทุกคนเดินทางมายัง สน. เพื่อต้องการไกล่เกลี่ยกับดาราสาว

ทนายกุ้ง ย้ำว่าผู้เสียหายต้องการที่จะเข้าขั้นตอนการเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางดาราสาวคนนี้ เพราะทุกคนต้องการได้รับเงินคืน และอยากให้ตัวดาราสาวเร่งมาตามนัดเพื่อเข้าขั้นตอนดังกล่าว

ซึ่งหากการเจรจาไกล่เกลี่ยไม่สามารถดำเนินการได้ก็ต้องดำเนินการโดยแบ่งเป็นต่างกรรมต่างวาระต่างคดี ซึ่งเท่าที่ดูตอนนี้มีทั้งในส่วนของคดีทางอาญา คือคดีฉ้อโกง และคดีเกี่ยวกับเช็ค ส่วนการกู้ยืมเงินของผู้เสียหายบางรายจะเข้าเป็นคดีแพ่ง ที่จะต้องไปบังคับเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สิน หากสุดท้ายขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมด พบว่าไม่มีทรัพย์เพียงพอที่จะชดใช้คืนผู้เสียหายได้ ตามกฎหมายก็ต้องบังคับให้เป็นผู้ล้มละลาย

ขณะที่ตัวลูกหมี ระบุว่า ตนเองไม่ได้มีการตั้งกำหนดระยะเวลาเอาไว้ว่าจะต้องมีการเข้ามาเจรจาเมื่อใด แต่ก็อยากให้เข้ามาเจรจาอย่างเร่งด่วนเพราะเชื่อว่าผู้เสียหายทุกคนก็อยากได้เงินคืน

ส่วนกรณีที่มีประเด็นว่าดาราสาวคู่กรณี อ้างว่าถูกโกงธุรกิจทำให้เสียเงินไปหลายล้านบาทนั้น ลูกหมีกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับทางผู้เสียหาย แต่เป็นเรื่องของตัวดาราสาว ซึ่งตัวดาราสา ก็ต้องไปจัดการเอง ไม่ใช่การหยิบยกเรื่องดังกล่าวมาเชื่อมโยงกัน

ทั้งนี้ลูกหมียังกล่าวอีกว่า คดีของตนไม่ได้ซับซ้อน แต่เขาทำให้ซับซ้อนเองต่างหาก และอยากให้ทางคู่กรณีที่เป็นดาราสาวมาเข้าขั้นตอนการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อหาแนวทางในการคืนเงินให้กับทางผู้เสียหาย และขอให้ทางดาราสาวคนนี้ไม่อยากให้เครียดมากจนต้องเข้าโรงพยาบาลแบบนี้.