เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสดราม่าเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) หลังอภิปรายในสภา เรื่องคำว่าเจ๊งกับเจ๊ง ซึ่งมีการโยงไปถึงคำว่ายุบพรรค ว่า จริงๆ ตนไม่ได้ไปแช่งชักหักเหลี่ยมใครให้ถูกศาลรัฐธรรมนูญพิพากษา เพียงแค่ตนเห็นว่าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ใช้วาทกรรมคำว่าเจ๊งไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ มาด้อยค่านโยบายหลักของพรรค พท. เช่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเวลาที่มีการอภิปรายในสภา เขาใช้วาทกรรมมา เราก็พยายามจะไปหาความหมายของวาทกรรมว่าคำว่าเจ๊งมีความหมายหลายอย่าง เมื่อเขาตั้งโวหารมา เราก็ต้องตอบโดยใช้สิ่งที่เขาตั้งมา จึงเป็นการอภิปรายออกมาในลักษณะเช่นนั้น

เมื่อถามว่า หลังจากนั้นก็มีวาทกรรมอีกว่าเป็นกาฝากประชาธิปไตย นายดนุพร กล่าวว่า ก็เป็นประชาธิปไตย หากฝ่ายค้านบอกว่าตนไปด้อยค่าเขาหนึ่งครั้ง เขาก็ตอบมาหนึ่งครั้ง หนึ่งต่อหนึ่งเสมอกัน ประชาธิปไตยเป็นเช่นนี้ทุกยุคทุกสมัย เมื่อวานนี้ช่วงเย็นหรือวันนี้ช่วงเช้าที่เจอ สส.พรรค ก.ก. ก็ยังพูดคุยแซวกันอยู่ว่าเป็นอย่างไร ตนก็บอกว่ารถทัวร์ยังเต็มอยู่หน้าบ้าน ก็ไม่มีปัญหา ยังแซวกับ สส.พรรค ก.ก. อยู่

เมื่อถามต่อว่า ไม่ได้ติดใจอะไรใช่หรือไม่ นายดนุพร กล่าวว่า ไม่ติดใจ ตนเป็น สส. มาสามสมัยแล้ว เห็นมาตั้งแต่สมัยสภาเก่าจนมาปัจจุบัน เชื่อว่านี่ก็เป็นความสวยงามของประชาธิปไตย เป็นการอภิปรายกัน

เมื่อถามว่า มีมุมมองที่บอกว่าพรรคเคยเป็นพรรคอันดับหนึ่ง แต่มาแพ้ให้พรรคขนาดเล็กที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ นายดนุพร กล่าวว่า เรื่องจริง ยอมรับ แต่เราแพ้แล้วเราจะปรับปรุงให้พรรคเรากลับมาทวงคืนชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้า ขอบคุณพรรค ก.ก. ที่ชนะเลือกตั้ง ทำให้เรากลับมามองตัวเองให้มีการพัฒนามากยิ่งขึ้น อย่างน้อย เราก็มีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคให้เป็นรุ่นเด็กมากขึ้นและให้ทันสมัยมากขึ้น เพราะถ้าเรายังชนะอยู่ ตนเชื่อว่าพรรค พท. เองก็ยังจะเปลี่ยนอะไรยาก แต่เมื่อพรรค ก.ก. ชนะก็เป็นสิ่งที่เห็นกันอยู่ ปฏิเสธไม่ได้ และเราก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่วันนี้เราก็ปรับปรุงพรรคเราให้ดีขึ้น เตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า

“แต่เรื่องที่อภิปราย ไม่มีอะไรติดใจ จริงๆ ทั้งโฆษกพรรค รองโฆษกพรรคก็รู้จักกัน เพียงแค่แต่ละคนก็มีหน้าที่ ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ได้โกรธเคืองอะไรเลย หนึ่งต่อหนึ่ง” นายดนุพร กล่าว