กลายเป็นประเด็นดราม่าที่ทำชาวเน็ตแห่แชร์กันสนั่นโซเชียล หลังจากคุณพ่อท่านหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์แชร์อุทาหรณ์ผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก พวกเราคือผู้บริโภค

โดยคุณพ่อเล่าว่า “อุทาหรณ์สำหรับคนแพ้ปลา เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 67 ผมได้พาครอบครัวไปเที่ยวห้างดังย่านรังสิต พอเดินเสร็จกำลังจะกลับ เวลาประมาณ 11.30 น. ลูกชายอยากกินอาหารที่ร้านxx ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยทานอยู่ประจำ ผมและภรรยาก็เลือกทานเมนู ๆ เดิม ๆ ที่เคยทานไม่มีรายการที่เป็นเนื้อปลา”

“หลัก ๆ เท่าที่จำได้ ชุดผัก เต้าหู้ ตับ เซี่ยงจี๊ หมูสไลซ์ ลูกชิ้นปู ฟองเต้าหู้ หมูทรงเครื่อง บะหมี่หยก เป็ด+หมูกรอบ ฮะเก๋า คราว ๆ ประมาณนี้ ทุกอย่างมาเสิร์ฟ ผมก็จัดแจงเทลงหม้อ พอน้ำเดือดสุกได้ที่ ภรรยาผมก็ตักบะหมี่หยกกับน้ำซุปให้ลูกชาย ลูกชายก็ตักกินไปได้ 2-3 คำ มีอาการไอรุนแรง และอาเจียน เสียงพูดเริ่มพูดไม่มีเสียง ผมดูท่าทีแล้วไม่น่าไหว เลยสั่งให้พนักงานมาคิดตังค์ด่วน พนักงานก็ได้ขอเบอร์โทรฯ ผมไว้”

“หลังจากนั้นผมได้พาลูกชายผม มาที่ รพ.เอกชน ที่ใกล้เคียงที่สุด พอมาถึงที่ ER หมอแจ้งว่าดีนะที่มาไว ถ้าช้ากว่านี้สัก 2-3 นาที ลูกชายอาจจะหายใจเองไม่ได้แน่ เพราะว่าตอนที่มาถึงหลอดลมตีบมาก หมอและพยาบาลได้ให้ยาแบบจัดหนักจัดเต็ม พอช่วยเหลือจนได้พ้นขีดอันตรายแล้ว หมอแจ้งว่าน้องต้องนอนแอดมิตที่ ICU และต้องพ่นยาทุก 6 ชั่วโมง”

“พอช่วงเย็น ๆ ทางร้านxx ได้ติดต่อมาสอบถามอาการของลูกชายผม ผมได้แจ้งไปตามดังกล่าว และทางร้านก็ได้นำกระเช้าผลไม้และข้าวกล่อง 2 กล่อง+น้ำ 2 แก้ว ผมได้บอกกับทางร้านไปว่าลูกชายผมแพ้ปลา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ทานได้ปกติ แต่รอบนี้คิดว่ามีอยู่ 2 รายการที่สั่งมาคือ ลูกชิ้นปู กับ หมูทรงเครื่อง พนักงานแจ้งมาว่ามีส่วนผสมของเนื้อปลาทั้ง 2 รายการ”

“อ่าวสรุปคือลูกชิ้นปู ไม่ใช่ปูแท้ ๆ ราคาก็ไม่ถูก ๆ นะ ดันมีเนื้อปลาผสมอีก แต่ก็ช็อกไปกว่านั้น ตัวหมูทรงเครื่องก็มีเนื้อปลาผสมอีก ผมเลยแนะนำกับทางร้านไปว่าควรมีโน้ตข้อความว่าเมนูไหน มีส่วนผสมของปลา และ กุ้ง เพราะมีคนบางท่านที่แพ้ส่วนผสมนี้ ค่ารักษาหลักหมื่น ทางร้านxx น่าจะมีการช่วยเหลืออะไรที่มากกว่านี้นะครับ ถ้าลูกชายเป็นมากกว่านี้แย่แน่”…