เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.นาวิน เส็งสมวงศ์ ผบก.อก.บช.สอท. พ.ต.อ.สมพล ใจดี รอง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ปณิธาน ยามานนท์ รอง ผบก.สอท.2 ดร.ปนัดดา วงษ์ผู้ดี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ ร่วมแถลงผลเปิดปฏิบัติการ “SMOKELESS” บุกค้น 2 จุด ทลายเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 17 ล้านบาท

พล.ต.ท.นิรันดร กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.1 บก.สอท.2 สืบสวนจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ ในพื้นที่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนขยายผลหาความเชื่อมโยงของเครือข่าย จนทราบเบาะแสของกลุ่มคนร้ายในคดีนี้ จนนำไปสู่การเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นเป้าหมายทั้ง 2 จุด ในพื้นที่ จ.นครปฐมและกทม. ต่อมา พ.ต.อ.สุวัฒชัย ศรีทองสุข ผกก.1 บก.สอท.2 นำกำลังชุดสืบสวนพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดนครปฐม เข้าตรวจค้นเป้าหมายจุดแรกโกดังเช่า ใน ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม เป็นโกดังขนาดใหญ่ มีนายธนโชติ อายุ 44 ปี เป็นผู้ดูแลโกดัง จากตรวจค้นพบหัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและพอร์ตบุหรี่ไฟฟ้ายี่ห้อต่างๆ กว่า 53,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 8,000,000 บาท ส่งดำเนินคดี

พล.ต.ท.นิรันดร กล่าวต่อว่า ส่วนจุดที่ 2 ทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านในพื้นที่ แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ พบบุหรี่ไฟฟ้าแบบต่างๆ ทั้งพอร์ตใช้แล้วทิ้ง หัวน้ำยาหลายยี่ห้อรวมกว่า 37,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 8,900,000 บาท พร้อมจับกุม น.ส.ณัฐภรณ์ อายุ 30 ปี พร้อมของกลางบุหรี่ไฟฟ้าที่ตรวจพบภายในบ้านดังกล่าว รวมทั้งสองจุดของกลางกว่า 80,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 17,000,000 บาท เบื้องต้นทั้งสองยังให้การอ้างว่า เป็นเพียงผู้ดูแลเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่ออยู่ระหว่างการสอบสวน หาหลักฐานมัดตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 เครือข่ายแล้ว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสองราย ในความผิดฐาน “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า) ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 และซ่อนเร้นช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพีงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร ตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560″ ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.2 ดำเนินคดีต่อไป

ดร.ปนัดดา กล่าวว่า สำหรับบุหรี่ไฟฟ้า ยังคงเป็นเรื่องใหญ่ เพราะจากการศึกษาพบว่าในแต่ละปีจะมีนักเรียนนักศึกษาเข้ามาเป็นผู้เสพบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยมีรูปแบบต่างๆ ผลิตออกมาใหม่ให้หน้าตาสีสันชวนให้สนใจให้กลุ่มเยาวชนเข้ามาเป็นลูกค้า ซึ่งอยากให้ทางผู้ปกครองสอดส่องตักเตือนบุตรหลานให้ตระหนักถึงโทษและพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง