สื่อเวียดนาม soha รายงานว่า น้ำส้มเป็นของดีที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซี 15-20% นอกจากนี้ยังมีสารประกอบอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ เยื่อหุ้มเซลล์ที่ปกคลุมส่วนสีส้ม ในกลีบและเมล็ดส้ม ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ต้านการอักเสบ ต่อต้านเนื้องอก ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่ง ปริมาณวิตามินซีที่สูงมากในส้ม ช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น

น้ำส้มยังมีวิตามินเอ ทองแดง โฟเลต และไทอามีน (วิตามินบี 1) และสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับการโจมตีจากภายนอกร่างกายได้

อย่างไรก็ดี น้ำส้มไม่ใช่เครื่องดื่มที่ทุกคนสามารถดื่มได้ตลอดเวลา มีช่วงเวลาไหนบ้างที่ไม่ควรดื่มน้ำส้ม?

  • เมื่อคุณเป็นแผลในกระเพาะอาหาร แผลในลำไส้เล็กส่วนต้น หรือตับอ่อนอักเสบ ไม่ควรดื่มน้ำส้ม เพราะจะไปเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการเสียดท้องและทำให้แผลแย่ลง
  • อย่าดื่มน้ำส้มตอนเย็น เพราะน้ำส้มมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ การดื่มน้ำส้มมากๆ ในตอนเย็น จะทำให้ปัสสาวะบ่อย ขณะเดียวกัน วิตามินซีในส้มยังทำให้นอนหลับได้ยากขึ้นอีกด้วย
  • อย่าดื่มน้ำส้มก่อนหรือหลังดื่มนม เพราะโปรตีนในนมจะทำปฏิกิริยากับกรดทาร์ทาริกและวิตามินซีในส้ม ทำให้ท้องอืด ปวดท้อง และท้องเสีย
  • อย่าดื่มส้มและน้ำผลไม้รสเปรี้ยวอื่นๆ ร่วมกับยา เพราะน้ำส้มจะไปลดการดูดซึมของยา ควรดื่มน้ำส้ม 1-2 ชั่วโมงก่อนหรือหลังรับประทานยา.

ที่มาและภาพ : soha, Steve Buissinne, NoName_13 / Pixabay