“ไฮลักซ์ รีโว่” ถือกำเนิดด้วยแรงบันดาลใจจากดาการ์ แรลลี่ สู่การออกแบบในเมืองเมลเบิร์น ก่อนผ่านการทดสอบในประเทศออสเตรเลีย เพื่อส่งออกสู่ตลาดโลก โดยปี 2018 โตโยต้า ออสเตรเลีย เริ่มวางแผนจะผลิตรถรุ่นใหม่ จึงได้มองหาแรงบันดาลใจจากรถแข่ง GR HiLux ซึ่งเริ่มเป็นที่สนใจจากการปรากฏตัวในรายการแข่งขันรถวิบากบนเส้นทางออฟโรดอย่างดาการ์ แรลลี่ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นการแข่งขันที่ยากที่สุดรายการหนึ่งของโลก ผู้ที่ได้ขับรถแข่ง GR HiLux ซึ่งได้รับการพัฒนาที่แอฟริกาใต้คือ นาสเซอร์ อัล-อัตติยาห์ (Nasser Al-Attiyah) และนักแข่งร่วมคือ มาธิเออ โบเมล (Mathieu Baumel) รถคันนี้คว้าชัยชนะได้ในรายการ FIA Cross Country Rally World Cup ประจำปี 2016 และ 2017 ก่อนจะคว้าแชมป์ในการแข่งขันดาการ์ แรลลี่ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในปี 2019

หลังจากนั้น โตโยต้าก็ประกาศศักดาคว้าชัยชนะด้วยคะแนนรวมสูงสุดในการแข่งขันดาการ์ แรลลี่ ในปี 2022 และ 2023 ด้วยเหตุนี้ นักออกแบบและวิศวกรของโตโยต้า ออสเตรเลีย จึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนารถ HiLux GR Sport ที่มีคุณสมบัติด้านสมรรถนะการขับขี่ที่สามารถขับลุยได้ในทุกเส้นทางแบบเดียวกับรถแข่ง GR HiLux คันนี้

สำหรับแนวคิดในการออกแบบคือ มุ่งพัฒนารถ HiLux ที่มีสมรรถนะสูงยิ่งขึ้น โดยนอกจากจะขับขี่ด้วยความเร็วสูงบนเส้นทางออฟโรดได้แล้ว ยังต้องตอบโจทย์การขับขี่บนถนนทั่วไปโดยให้สมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจในสไตล์สปอร์ต ขณะเดียวกันก็ยังคงประสิทธิภาพในการลากจูง บรรทุกน้ำหนัก และขับขี่แบบออฟโรดได้ดี จึงทำให้รถไฮลักซ์ครองตำแหน่งรถกระบะยอดนิยมขวัญใจชาวออสเตรเลีย

การออกแบบภายนอกของ HiLux GR Sport ใหม่ ได้รับการพัฒนาโดยทีมงานออกแบบของโตโยต้าที่เมืองอัลโทนา โดยในขั้นตอนการออกแบบนี้ต้องอาศัยทำงานร่วมกับทีมวิศวกรรมตัวถังของโตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย (ประเทศไทย) จึงเกิดเป็นวิธีการทำงานร่วมกันแบบทางไกล ระหว่างทั้งทีมในประเทศออสเตรเลียและในประเทศไทย ถือได้ว่าเป็นการบุกเบิกการพัฒนารถยนต์แบบ “ไร้สถานที่” อย่างแท้จริง ทีมงานออกแบบของโตโยต้า ออสเตรเลีย ได้เริ่มนำเสนอรูปแบบการดีไซน์ในปี 2019 ต่อ “โคนิชิ” หัวหน้าวิศวกรของ HiLux โดยใช้เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง (Virtual Reality – VR)​ ซึ่ง “โคนิชิ” ประทับใจมากถึงขั้นที่สนับสนุนให้พัฒนารถไฮลักซ์รุ่นนี้เพื่อขายในตลาดโลก

นายนิค โฮเกียส์ ผู้จัดการอาวุโสโตโยต้า ดีไซน์ ออสเตรเลีย ระบุว่า เป้าหมายของการออกแบบในครั้งนี้คือเพื่อพัฒนาภาพลักษณ์ของรถรุ่นนี้ให้ก้าวล้ำไปอีกระดับในฐานะรถออฟโรดสมรรถนะสูงอย่างแท้จริง ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่สไตล์มอเตอร์สปอร์ตแบบเดียวกับรถ GR HiLux ที่ลงแข่งในศึกดาการ์ แรลลี่ และด้วยจุดยืนของแบรนด์ GAZOO Racing แน่นอนว่าหน้าที่ของเราคือการนำเสนอแนวคิดที่ว่าความสวยงามต้องมาพร้อมกับการใช้งานจริงเสมอ โดยศึกษาพบว่ารถ GR HiLux ที่ลงแข่งในรายการดาการ์ แรลลี่ และมีเทคโนโลยีความปลอดภัยเพื่อปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างไร เพื่อนำมาถ่ายทอดคุณลักษณะเหล่านั้นให้มาอยู่ใน HiLux GR Sport ให้ได้

ในขณะที่ทีมออกแบบของโตโยต้า ออสเตรเลีย เป็นผู้นำในกระบวนการออกแบบ ระหว่างนั้นก็ได้มีการถ่ายทอดทิศทางแนวคิดการพัฒนารถรุ่นนี้ให้กับบริษัทอื่นๆ ในเครือโตโยต้าด้วย ซึ่งบริษัทเหล่านี้ก็ช่วยให้ข้อมูลความเห็นเพิ่มเติมก่อนที่จะมีการอนุมัติการออกแบบในขั้นตอนสุดท้าย ในปี 2021 โตโยต้า ออสเตรเลีย มีรถต้นแบบที่ผ่านการทดสอบและประเมินอย่างละเอียดเป็นที่เรียบร้อย ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา วิศวกรฝ่ายประเมินยานพาหนะของโตโยต้า ออสเตรเลีย ได้ทำการทดสอบและประเมินรถ HiLux GR Sport เป็นระยะทางมากกว่า 100,000 กิโลเมตร โดยการดำเนินงานส่วนใหญ่ทำที่ศูนย์ทดสอบที่เมืองแองเกิลซี รัฐวิกตอเรีย เพื่อให้มั่นใจว่ารถ GR Sport จะมีสมรรถนะตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงได้มีการทดสอบในเนินทรายรอบๆ เมืองโรบ รัฐเซาท์ออสเตรเลีย พื้นที่ทะเลทรายรอบๆ เมืองมิลดูรา และที่ราบสูงของรัฐวิกตอเรีย อีกทั้งยังมีการทดสอบที่ระดับความสูงมากในประเทศอาร์เจนตินา และแล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ รถ HiLux ที่บรรลุเป้าหมายด้านสมรรถนะการขับขี่ในทุกพื้นที่

ทางด้าน นายเรย์ มันเดย์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ออสเตรเลีย (TMCA) รถโตโยต้ามีชื่อเสียงเรื่องความทนทาน มาตรฐานและการออกแบบตามความเป็นจริง ทดสอบหลายปีบนพื้นที่ประเทศออสเตรเลีย ที่ใหญ่กว่าไทยถึง 15 เท่า จึงมีถนนให้ทดสอบหลากหลาย ทั้งป่า หิน ทะเลทราย ทุรกันดาร ความร้อนสูง ทางฝุ่น ภูเขาหรือมากกว่าเป็นออฟโรดเพื่อลากจูงจำหรือขนส่งของน้ำหนักมาก ซึ่งการพัฒนา ไฮลักซ์ รีโว่ จีอาร์ สปอร์ต จึงรับมือสภาพการทรหด จากนั้นจึงนำข้อมูลที่ได้จากการทดสอบมาวิเคราะห์และพัฒนาสร้างผลิตภัณฑ์แมสโปรดักชั่น และว่าอนาคตจะให้ทีมนี้พัฒนาทำการบ้านออกแบบจีอาร์ตัวต่อไปก็จะทำที่นี่

“เรายกระดับการออกแบบให้มีเอกลักษณ์ คล่องตัว ผสมผสานสิ่งที่เห็นภาพร่างการออกแบบทั้งดุดัน รวดเร็ว ทนทาน การทำงานสร้างข้อมูล การออกแบบปรับปรุงให้สอดคล้องกัน ทำงานร่วมกับวิศวกรจากญี่ปุ่น เครือโตโยต้าทั่วโลก อย่างใกล้ชิด โดยใช้แรงบันดาลใจจากการทำแรลลี่ มาพัฒนาเพื่อให้ได้รถเหมาะกับการใช้งานได้จริงบนท้องถนนอีกด้วย

ภายในศูนย์วิจัยฯ แห่งนี้ จะใช้เวลาพัฒนารถแต่ละรุ่งไม่เท่ากัน เช่นปรับโฉมใหม่ใช้เวลา 6-12 เดือน หากเป็นรถใหม่ต้องใช้เวลากว่า 1-2 ปี เพราะการขึ้นรูปมีหลายขั้นตอนเช่นใช้ดินที่นำเข้าจากประเทศเยอรมนี มาลงมือผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าด้วยกัน เช่นพื้นผิวที่รีดด้วยมือ พื้นผิวที่รีดละเอียด-พื้นผิวที่รีดหยาบ  พื้นผิวโฟมเส้นโค้งการใช้โลหะต่างๆ ต้องประณีต ตั้งแต่กระบวนการสร้างแบบจำลองดินเหนียวขนาดเต็ม เริ่มต้นด้วยโครงโลหะซึ่งมีล้อและยางเสริมเข้ามา โดยใช้ระบบเพลาที่สั่งทำพิเศษขั้นตอนต่อไปในกระบวนการคือการตอบบล็อกโฟมขนาดใหญ่ซึ่งถูกตัดเป็นรูปร่างโดยเครื่องรีด

โดยเขียนโปรแกรมโดยข้อมูล cad หลังจากนั้นทีมสร้างแบบจำลองจะทำดินเดี๋ยวร้อน 30-50 มม. ลงบนพื้นผิวทั้งหมดเมื่อเย็นตัวลงแล้วเครื่องกัดจะตัดรูปร่างใหม่ โดยเริ่มจากการตัดหยาบประมาณ 2-3 มม. จากพื้นผิวที่ต้องการ จากนั้นจึงตัดขั้นสุดท้ายโดยให้ห่างจากข้อมูล การออกแบบไม่เกิน 0.1 มม จากนั้นช่างสร้างแบบจำลองขึ้นจะเข้ามาดำเนินการและเริ่มกระบวนการทำความสะอาดพื้นผิวที่กัดด้วยเครื่องมือเฉพาะของตนหรือปรับพื้นผิวให้เป็นไปตามแนวทางการออกแบบใหม่ ในที่สุดเมื่อแบบจำลองเสร็จสมบูรณ์และทีมออกแบบอนุมัติแล้ว แบบจำลองจะถูกทาสีในระดับสูง เพื่อประเมินว่าจะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเพื่อนำออกสู่ตลาดอย่างไร

นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาของโตโยต้า ออสเตรเลีย แห่งนี้ ยังพัฒนารถยนต์โตโยต้าอีกหลากหลายรุ่นทั้งจากอดีต และอนาคต โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าแต่ละตลาดเป็นหลัก จากนั้นรถที่ผ่านการพัฒนาแล้วจะผลิตออกสู่ตลาดโลกจากโรงงานของโตโยต้า ทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศไทย ฐานผลิตใหญ่นอกประเทศญี่ปุ่น ถูกรับเลือกให้ประกอบรถยนต์ลำดับต้นๆ.