เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. นายพชร นริพทะพันธุ์ ที่ปรึกษาประธาน กสทช. ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN ว่านับตั้งแต่เดือน พ.ค. 67 กสทช.สั่งการให้โอเปอเรเตอร์ในประเทศไทย ดำเนินการปิดบริการเครือข่ายสื่อสารไร้สายบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ลาว กัมพูชา แต่หลังจากนั้นยังปรากฏข้อมูลว่าอาชญากรเหล่านี้ มีความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ปรับตัวหันใช้วิธีการอื่นในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น สตาร์ลิงค์

CNN สะท้อนว่ามีอาชญากรตั้งฐานบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา จำนวนมาก สำนักงานบางแห่งมีคนทำหน้าที่แชตลวงเหยื่อกว่า 100 คน ทำงาน 16 ชั่วโมงต่อวัน แต่ดูเหมือนจะอยู่นอกเหนือการควบคุมของหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ไม่ว่าจะระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติ

เจฟ โรเซน อัยการเขตซานตาคลารา สหรัฐอเมริกา กล่าวว่าผู้กระทำผิดหลายคนอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา แต่อัยการคงไม่ปล่อยไปโดยไร้มาตรการป้องกัน โดยเฉพาะเมื่อเราพบหลักฐานปฏิบัติการจากพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข้อมูล FBI พบว่าปี 66 การฉ้อโกงกลุ่มเงินสกุลดิจิทัลกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้ 3.96 พันล้านดอลลาร์ ฉ้อโกงโดยกระบวนการเรียกว่า “เชือดหมู” หรือ pig butchering scams คือหลอกให้ตายใจก่อนหมดตัว แม้หยุดยั้งความเสียหายได้หลายล้านดอลลาร์ แต่ไม่สามารถจับอาชญากรตัวจริงได้เลย

นายพชร กล่าวเพิ่มเติมว่าประเทศไทยให้ความสำคัญกับการปราบแก๊งอาชญากรคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ทุกรูปแบบ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการลงพื้นที่ตรวจสอบจัดการกับสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่และสถานีส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตผิดกฎหมาย การจัดระเบียบเสาสัญญาณตลอดแนวชายแดนทั่วประเทศ ป้องกันไม่ให้สัญญาณข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ตัดแขนตัดขากลุ่มอาชญากรทางเทคโนโลยีไม่ให้ใช้หลอกลวงได้

นอกจากนั้น ยังยึดอุปกรณ์สื่อสารอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม หรือสตาร์ลิงค์ ที่ลักลอบนำเข้ามาใช้จำนวนมาก โดย กสทช. ร่วมกับโอเปอเรเตอร์ตรวจสอบบัญชีม้าและเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ โอนเงินให้แก๊งมิจฉาชีพ รวมถึงความร่วมมือกับหน่วยงานสื่อสารโทรคมนาคมประเทศเพื่อนบ้าน แลกเปลี่ยนข้อมูลการกระทำผิดอย่างใกล้ชิด ทำให้สังคมตื่นตัวและหยุดยั้งแก๊งอาชญากรได้ในอนาคต