เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ วันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. ร่วมกับนายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ร่วมกันบูรณาการ สนธิกำลังคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตำรวจ บก.ปทส., ตชด.เพชรบูรณ์ กก.ตชด.31, กอ.รมน.เพชรบูรณ์, ฝ่ายปกครองอำเภอหล่มสัก และ อบต.บุ่งน้ำเต้า เข้าตรวจสอบ กลุ่มบุคคลเข้าไปบุกรุก ยึดถือครอบครอง ก่อสร้าง สถานปฏิบัติธรรมถ้ำฤาษีสมบัติ ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตั้งอยู่บนเขาบริเวณถ้ำสมบัติ หมู่ 8 ต.บุ่งน้ำเต้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งใช้เป็นที่เก็บรักษาสมบัติของชาติ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

เมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่บริเวณที่มีการร้องเรียน พบกลุ่มบุคคลจำนวน 3 คน อยู่ในพื้นที่ เป็นแม่ชี 2 คน และผู้ชาย 1 คน อ้างว่าเป็นลูกศิษย์พระองค์หนึ่ง ขณะตรวจสอบพระรูปดังกล่าวไม่อยู่ในพื้นที่ อ้างว่า พระได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาประมาณ 1 ปี พบสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ สร้างถนนคอนกรีตกว้าง 3.30 เมตร ยาว 175 เมตร ขึ้นไปบนภูเขา มีอาคารศาลาปฏิบัติธรรม 2 ชั้น 1 หลัง โครงสร้างเหล็กหลังคาเมทัลชีท, ที่พักและสิ่งปลูกสร้างถาวร 8 หลัง โครงสร้างเหล็กหลังคาเมทัลชีท, สะพานเหล็ก 2 แห่ง และสิ่งปลูกสร้างชั่วคราว รวม 24 รายการ เมื่อวัดพิกัดรอบพื้นที่ได้ 17-0-88 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาโปลกหล่น ต.บุ่งน้ำเต้า อ.หล่มสัก

จากการสอบสวนเบื้องต้น ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัย ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และตรวจสอบจาก อบต.บุ่งน้ำเต้า พบว่าไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31, พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 ประกอบมาตรา 72 ตรี และ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 21 ประกอบมาตรา 65 คณะเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจยึดพื้นที่และสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด นำไปแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.หล่มสัก ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.