จากกรณีทนายนพ สุขาภิรมย์ อายุ 71 ปี ทนายชื่อดังในพื้นที่ จ.ราชบุรี บุกไปประท้วงใช้อุจจาระราดตัว และใช้ไขควงเย็บกระสอบแทงเข้าที่แขนของตัวเอง ที่หน้าธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้กลอุบายหลอกเอาเงินออกจากบัญชีจนหมดตัวกว่า 1.1 ล้านบาท
โดยทนายนพ เล่าเหตุการณ์ที่ถูกหลอกให้โอนเงิน ว่า มิจฉาชีพอ้างตัวเป็นบริษัทขนส่งพัสดุ ติดต่อขอชดใช้ค่าเสียหาย 1,000 บาท หลังทำเอกสารชำรุด และให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อจะคืนเงิน แต่หลังจากดาวน์โหลดแอป แล้วโทรศัพท์ก็มืดไม่สามารถใช้งานได้ มีเพียงช่องให้สแกนใบหน้าเท่านั้น ก่อนหน้าจอจะดับลงไปนานราว 10 นาที และพบว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีทั้งหมดกว่า 1.1 ล้านบาท
ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย ชี้แจงตามที่มีการนำเสนอข่าวมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นบริษัทขนส่ง หลอกผู้เสียหายให้โอนเงินนั้น
ธนาคารขอชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวไม่ใช่กรณีแอปดูดเงิน แต่เป็นการโอนเงินผ่านการสแกน QR พร้อมเพย์ ซึ่งคนร้ายหลอกว่าเป็น QR รับเงิน ผู้เสียหายดำเนินการตามขั้นตอน โดยเป็นผู้ใส่รหัสสแกนหน้า และโอนเงิน พร้อมยืนยันรายการด้วยตนเองเป็นจำนวน 2 รายการ
เมื่อธนาคารรับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายในวันที่ถูกหลอกโอนเงิน จึงได้ดำเนินการออกเลขที่รับแจ้งเหตุ (Bank Case ID) พร้อมทั้งส่งข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วนให้ธนาคารผู้รับโอนทันที เพื่อระงับธุรกรรมชั่วคราวและไล่เส้นทางการเงินตามกระบวนการของกฎหมาย โดยธนาคารพร้อมสนับสนุนและให้ความร่วมมือหน่วยงานทางการที่แจ้งขอข้อมูลมาทุกกรณี
ทั้งนี้ ธนาคารขออภัยสำหรับประเด็นการขอข้อมูลตามที่เป็นข่าว ที่อาจมีความคลาดเคลื่อนในการสื่อสาร อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มีความจำเป็น หรือส่งผลกระทบต่อกระบวนการส่งเรื่อง เพื่อระงับธุรกรรมแต่อย่างใด
ธนาคารขอเน้นย้ำว่าการสแกน QR code ผ่านแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้ง เป็นการสแกนเพื่อจ่ายเงินเท่านั้น ไม่มีการสแกนเพื่อรับเงิน และเพื่อลดความเสี่ยงการตกเป็นเหยื่อจากมิจฉาชีพ อย่ากดลิงก์จาก SMS แปลกปลอม และอย่าแอดไลน์คนที่ไม่รู้จัก