เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. กระทรวงมหาดไทยจัดกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค. 2567 ซึ่งกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศพร้อมใจกันจัดขึ้น เพื่อนำธงตราสัญลักษณ์ฯ เส้นทางละ 72 คัน รวม 10 เส้นทาง 720 คัน มุ่งสู่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. รวมทั้งสิ้น 18 วัน ซึ่งที่ผ่านมาทุกจังหวัดได้ดำเนินกิจกรรม เดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์ฯ และส่งต่อธงให้กับจังหวัดถัดไป ตามเส้นทาง ทั้ง 10 สาย เพื่อนำขบวนธงตราสัญลักษณ์ฯ เข้ามาสู่กระทรวงมหาดไทย ภายในช่วงเดือน ก.ค.

นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า จังหวัดลพบุรีได้จัดพิธีรับมอบธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ จุดรับมอบธงที่ว่าการอำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี จากนายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยคณะหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่นธงตราสัญลักษณ์ฯ โดยตนพร้อมคณะหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้เคลื่อนขบวนธงตราสัญลักษณ์ฯ ไปตามเส้นทางที่กำหนดบนถนนทางหลวง หมายเลข 205 ไปยังบริเวณพิธีพุทธสถานลพบุรีศรีสุวรรณภูมิ ตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี โดยเส้นทางดังกล่าวจะผ่าน โรงเรียนชัยบาดาลวิทยา ตำบลนารายณ์ อำเภอชัยบาดาล, วัดอัมพวันวนาราม ตำบลม่วงค่อม อำเภอชัยบาดาล, โรงเรียนโคกสำโรงวิทยา ตำบลคลองเกตุ อำเภอโคกสำโรง และมายังบริเวณพิธีพุทธสถานลพบุรีศรีสุวรรณภูมิ ตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ซึ่งในเย็นวันนี้จะมีการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ลานพิธีพุทธสถานลพบุรีศรีสุวรรณภูมิ พร้อมทั้งเก็บรักษาธงตราสัญลักษณ์ฯ ไว้เป็นจำนวน 1 คืน เพื่อใช้จัดกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่นธงตราสัญลักษณ์ฯ ต่อไป

นายอดิเทพ กมลเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า จังหวัดพิจิตร ได้รับมอบธงตราสัญลักษณ์ฯ เป็นจังหวัดลำดับสุดท้ายของสายที่ 2 ก่อนที่จะรวมขบวนธงกับสายที่ 1 ที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยได้รับจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มีนายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นผู้ส่งมอบ ซึ่งจังหวัดพิจิตรจะนำธงตราสัญลักษณ์ฯ มาจัดกิจกรรมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์ฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งจังหวัดพิจิตรต้องการให้พี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการปฏิบัติบูชาโดยน้อมนำแนวทางในเรื่องการดูแลสุขภาพพลานามัยด้วยการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง หรือการปั่นจักรยาน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้จัดกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งได้เริ่มต้นการจัดกิจกรรมพร้อมกันทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2567 ทั้ง 10 จังหวัดต้นทาง (จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย บึงกาฬ นครพนม อุบลราชธานี สระแก้ว ตราด สงขลา สตูล และจังหวัดกาญจนบุรี) และได้ทำการส่งต่อธงตราสัญลักษณ์ฯ ให้กับจังหวัดต่าง ๆ ถัดไป ทั้ง 10 เส้นทาง เพื่อนำเข้ามาสู่กระทรวงมหาดไทย

“โดยวันนี้เข้าสู่วันที่ 18 ของการจัดกิจกรรม ซึ่งปัจจุบันแต่ละสายทั้ง 10 สายทาง มีการรวมสายแล้ว 2 สาย คือ สายที่ 3 กับ สายที่ 4 และสายที่ 8 กับสายที่ 9 ทำให้มีขบวนเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์ฯ คงเหลือทั้งสิ้น 8 สาย และมีระยะทางจากการทำกิจกรรมรวมกันทั้งหมด 8,700 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางอันยาวไกลที่หลั่งไหลมาจากทั่วทั้งประเทศ โดยภาพรวมบรรยากาศการจัดกิจกรรม ตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมา ตั้งแต่การเตรียมการจัดกิจกรรม การจัดนิทรรศการเฉลิมฉลอง ต่อเนื่องจนมาถึงวันนี้ ที่จะเป็นการส่งต่อธงตราสัญลักษณ์ฯ ให้แก่จังหวัดรอยต่อถัดไป ซึ่งด้วยการนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ภาคีเครือข่าย และพี่น้องประชาชน ล้วนแสดงให้เราได้เห็นถึงความตั้งใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ ทุกกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งมีความหลากหลาย และพร้อมใจกันเข้ามาร่วม เดิน วิ่ง ปั่น ถึงแม้ว่าจะมีทั้งสายฝนที่โปรยปราย และแสงแดด ที่สาดส่องลงมาในทุกเส้นทางแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน อันก่อเกิดเป็นภาพแห่งความ “ปลื้มปีติ” ของพสกนิกรคนไทยทุกคนที่ได้ร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างหาที่สุดมิได้” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม