เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมผ่านการพิจารณาของ สว. ซึ่งจะส่งผลต่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างไรบ้างว่า แน่นอนก็คือเขาสามารถใช้ชีวิตสร้างครอบครัวร่วมกันโดยที่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งในความเป็นจริงก็มีกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแต่เขาไม่สามารถที่จะมีส่วนในเรื่องของสิทธิต่างๆ เช่น การลดหย่อนภาษี เซ็นเรื่องการรักษาพยาบาล สวัสดิการในฐานะคู่สมรส ทำประกันชีวิตหรือกู้เงินจากสถาบันการเงินร่วมกันไม่ได้ เป็นต้น เพราะฉะนั้นการที่มีกฎหมายรองรับเขาก็จะมีสิทธิที่มีความเท่าเทียมกับชายหญิงทั่วไป จริงๆ ยังมีอีกหลายประเด็นมาก แต่ถ้าในภาพรวมคือเขาจะมีสิทธิมีหน้าที่ มีความรับผิดชอบเหมือนกับคู่สมรสชายหญิง และที่สำคัญคือมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน

นายธัญวัจน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้มาตราสำคัญในร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม คือมาตรา 67 ซึ่งบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ ข้อบัญญัติ ประกาศ คำสั่ง หรือมติใดของ ครม. ที่อ้างถึง สามี ภริยา หรือ สามีภริยา ให้ถือว่าอ้างถึงคู่สมรส ที่จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมใน พ.ร.บ.ฉบับนี้ด้วย ทำให้กฎหมายทุกฉบับให้สิทธิ หน้าที่ ความรับผิด เท่าเทียมกับชายหญิงทั่วไป  นอกจากนั้นกฎหมายฉบับนี้ ยังทำให้คู่สมรสสามารถรับบุตรบุญธรรมร่วมกันได้ แต่จะมีแค่  2 ประเด็นที่จะต้องไปแก้กฎหมายเพิ่มเติม คือ 1.การขอสัญชาติคู่สมรส  และ 2.การตั้งครรภ์ทางเทคโนโลยีที่จะต้องไปแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ซึ่งในเรื่องการขอสัญชาติคู่สมรสนั้น ในกฎหมายเดิมมันมีความเป็นเพศอยู่ เช่น ถ้าหญิงแต่งกับชายต่างชาติ สามารถขอสัญชาติให้ชายต่างชาติได้เลย แต่ถ้าเป็นชายไทยแต่งกับหญิงต่างชาติ กฎหมายกำหนดว่าให้ผู้หญิงต้องพูดภาษาไทยได้ก่อน เรื่องนี้เป็นความไม่เท่าเทียม ซึ่งเราต้องไปแก้ไขตรงนี้ ว่าถ้าเป็นหญิงสมรสกับหญิง หรือชายสมรสกับชาย กฎหมายจะให้สิทธิอย่างไร

นายธัญวัจน์ กล่าวว่า ส่วนประเด็นการตั้งครรภ์ทางเทคโนโลยี คู่สมรสที่จะใช้กฎหมายนี้ต้องมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ว่าเขาไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แต่กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ร่างกายเขาอาจจะแข็งแรงเหมือนคนทั่วไป แต่ด้วยเพศวิถีของเขา ดังนั้นมันจึงต้องมีเทคโนโลยีช่วยในการตั้งครรภ์ขึ้นมา ซึ่งอาจจะให้หญิงอื่นตั้งครรภ์แทน หรือกรณีหญิง-หญิง เขาก็อาจจะเอาไข่ออกมาผสมกับอสุจิของผู้บริจาค และอาจจะฝากปฏิสนธิไว้กับมดลูกของคู่สมรสตัวเอง ซึ่งจะมีลักษณะที่ต่างกันระหว่างคู่สมรสชาย-ชาย กับคู่สมรสหญิง-หญิง 

นายธัญวัจน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้สำหรับสิ่งที่พรรคก้าวไกลจะผลักดันต่อไปในประเด็นความหลากหลายทางเพศ คือในเรื่องคำนำหน้านามตามสมัครใจ ซึ่งที่ผ่านมาร่างกฎหมายได้ถูกปัดตกไปเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้มีการยกร่างใหม่ และมีการทำงานกับภาคประชาสังคม กลุ่มสัปภาคีนอนไบรีฯ มาร่วมกันทำงาน ซึ่งจะเป็นร่างกฎหมายที่ก้าวหน้ามากๆ คิดว่าน่าจะเสร็จประมาณช่วงต้นเดือน ก.ค. และตั้งใจว่าจะยื่นเข้าสู่สภา โดยดูจังหวะการยื่นให้มีความเหมาะสม เพื่อไม่ให้ถูกปัดตกอีก.