เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ภายหลัง ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 4 มาตรา ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 มีเนื้อหาระบุว่า “ค่อยๆ เดิน แต่มั่นคง ภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาไม่ขัดรัฐธรรมนูญ มีกัลยาณมิตร ผู้หลักผู้ใหญ่ ได้สื่อสารแสดงความยินดีกับ กกต. มาทางผมหลายราย ก็ได้แต่บอกไปว่าควรจะยินดีกับประเทศไทยที่ยังเดินต่อไปได้ตามครรลองที่ควรจะเป็น เราเองไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะเราทำในสิ่งที่ต้องทำ และต้องรับมือและรับผิดชอบกับทุกเรื่องที่จะตามมา ไม่ว่าเรื่องจะออกมาในทางใดทางหนึ่ง หากจะยินดีอยู่บ้างก็เพราะกระบวนการให้ได้มาซึ่ง สว. ยังเดินต่อไป ส่วนจะได้ สว.แบบไหน เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญออกแบบไว้หรือไม่ เราคงปฏิเสธความรับผิดชอบในส่วนนี้ไม่ได้เช่นกัน”            

“การจะได้ สว. แบบไหน ควรจะเป็นเรื่องของคนไทยทุกคน ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ตามฐานานุรูป ของแต่ละคนว่า ตนมีหน้าที่ต่อบ้านเมืองอย่างไร หากแต่เพียงหวังมุ่งหาประโยชน์ให้แก่ตนหรือหมู่คณะตน จากการเลือก สว. ครั้งนี้ การจะได้ สว. ตามที่ออกแบบไว้ตามรัฐธรรมนูญคงจะเกิดขึ้นได้ยาก สำหรับเรา ยังมุ่งมั่น ที่จะรักษากระบวนการการเลือก สว. ให้เป็นไปตามครรลอง และอย่างราบรื่น จนกว่าจะได้ สว. ครบตามจำนวนและเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ไม่มีอะไร ไม่ว่าจะมาดีหรือมาร้ายมาทำลายความมุ่งมั่นและจิตใจที่แข็งแกร่งของเราลงได้” เลขาธิการ กกต.กล่าว

วันเดียวกันนี้ สำนักงาน กกต. ได้ติดประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา ที่ผ่านเข้ารอบการคัดเลือกระดับจังหวัด จากที่มีการคัดเลือกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมเข้าสู่รอบคัดเลือกระดับประเทศ ในวันพุธที่ 26 มิ.ย.นี้ ทั้ง 20 กลุ่ม โดยมีจำนวนผู้ที่ผ่านเข้ารอบ 3,000 คน

สำหรับกระบวนการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ ในรอบแรก จะเป็นการเลือกกันเองของผู้สมัครในกลุ่มสาขาอาชีพ 20 อาชีพ โดยผู้สมัครสามารถลงคะแนนเลือกผู้สมัครในกลุ่มเดียวกันได้ ไม่เกิน 10 คน โดยจะลงคะแนนให้ตัวเองก็ได้ แต่จะไม่สามารถให้คะแนนใครคนใดคนหนึ่งได้เกิน 1 คะแนน 

ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด 40 ลำดับแรก ของแต่ละกลุ่ม รวมจำนวน  800 คน เป็นผู้ที่ได้รับเลือกขั้นต้นและเข้าสู่การเลือกรอบสอง

และการเลือกในรอบที่สองเลือกไขว้  ผู้สมัครจะต้องเลือกบุคคลที่อยู่กลุ่มอาชีพอื่นในสายเดียวกัน โดยจะไม่สามารถเลือกตัวเอง หรือผู้สมัครในกลุ่มอาชีพเดียวกันได้ ซึ่งผู้สมัครแต่ละคนจะมี 5 คะแนน โดยผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสุด 10 ลำดับแรก จะได้รับเลือกเป็น สว. ส่วนผู้ที่ได้คะแนนในลำดับที่ 11-15 ของกลุ่มนั้นๆ จะอยู่ในบัญชีสำรอง ซึ่งจะได้ สว. 200 คน  และบัญชีสำรอง 100 คน