จากกรณีทนายนพ สุขาภิรมย์ อายุ 71 ปี ทนายชื่อดังในพื้นที่ จ.ราชบุรี บุกไปประท้วงใช้อุจจาระราดตัวที่หน้าธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้กลอุบายหลอกเอาเงินออกจากบัญชีจนหมดตัวกว่า 1.1 ล้านบาท โดยทนายนพยื่นคำขาดให้เวลา 2 สัปดาห์ หากธนาคารไม่รับผิดชอบจะฆ่าตัวตายตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 18 มิ.ย. ที่บริเวณหน้าธนาคาร อ.เมือง จ.ราชบุรี ทนายนพ สุขาภิรมย์ อายุ 71 ปี ทนายชื่อดัง ได้เดินทางมาตามสัญญา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองราชบุรี และตำรวจนอกเครื่องแบบกว่า 10 นาย มาเฝ้าสังเกตการณ์และเฝ้าระวังเหตุ โดยทนายนพ ได้อ่านแถลงการณ์เล่าเหตุการณ์ที่ถูกหลอกให้โอนเงิน โดยมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นบริษัทขนส่งพัสดุ ติดต่อขอชดใช้ค่าเสียหาย 1,000 บาท หลังทำเอกสารชำรุด และให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อจะคืนเงิน แต่หลังจากดาวน์โหลดแอป แล้วโทรศัพท์ก็มืดไม่สามารถใช้งานได้ มีเพียงช่องให้สแกนใบหน้าเท่านั้น ก่อนหน้าจอจะดับลงไปนานราว 10 นาที และพบว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีทั้งหมดกว่า 1.1 ล้านบาท

ทั้งนี้ที่ผ่านมาทนายนพอ้างว่า ได้เข้าไปให้ปากคำกับตำรวจไซเบอร์ โดยตำรวจตรวจสอบแล้วแจ้งว่าเป็นความผิดของธนาคารที่ไม่ติดตั้งระบบป้องกันการแฮก จึงแนะนำให้ฟ้องแพ่งธนาคาร แต่ไม่ยืนยันว่าจะได้เงินคืนครบ แต่อาจได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นเพราะเงินไหลออกไปต่างประเทศแล้ว จะคาดหวังให้ตำรวจนำเงินทั้งหมดกลับคืนมาให้คงไม่ได้ พร้อมได้ยึดโทรศัพท์ไว้เพื่อให้กองพิสูจน์หลักฐานกู้หลักฐานใช้ฟ้องแพ่งกับทางธนาคาร

ทนายนพ ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ไม่มีเงินจะใช้ฟ้องแพ่ง แค่เงินกินข้าวในแต่ละวันก็ยังไม่มีเลย เพราะเงินที่คนใจบุญเคยบริจาคช่วยเหลือมารวม 8,000 บาทหมดแล้ว ส่วนเงินที่ธนาคารเยียวยามาเบื้องต้น 30,000 บาท มองว่าหากรับไว้คงใช้ดำรงชีพได้เพียงไม่กี่วัน จึงตั้งใจจะโอนคืนให้กับธนาคาร

‘ร.ต.ต.’ ใจเด็ดกระโดดขวางช่วย ‘ทนายความ’ เทอุจจาระราดตัวประท้วงหน้าธนาคารดัง

นอกจากนี้ทนายนพ ยังเรียกร้องให้ผู้จัดการธนาคารออกมารับหนังสือแถลงการณ์ พร้อมต้องให้คำตอบทันทีว่า จะคืนเงินทั้งหมดให้หรือไม่ แต่ไม่มีใครออกมาพบ จึงเอาหนังสือวางไว้ที่ประตูทางเข้า เมื่อไม่ออกมาพูดคุย หากไม่คืนยืนยันจะจัดการตัวเองที่หน้าธนาคารเพื่อให้ธนาคารได้รับผลกระทบ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องพยายามเข้ามาเกลี้ยกล่อมระงับเหตุ และพูดคุยให้ทนายนพใจเย็นและกลับไปรอคำตอบจากทางธนาคารที่บ้าน แต่ทนายนพไม่ยินยอม ตำรวจจึงขอค้นอาวุธพบเพียงยารักษาโรคเท่านั้น

ทนายนพได้ยืนรอและพูดคุยกับตำรวจที่มาช่วยไกล่เกลี่ยเกือบ 1 ชั่วโมง แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ธนาคารออกมารับหนังสือหรือพูดคุยเจรจากับทนายนพแต่อย่างใด ทนายนพจึงทำทีท่ายอมกลับบ้านเดินข้ามถนน และไม่ยอมให้ตำรวจตามประกบตัว เมื่อเดินถึงเกาะกลางถนนทนายนพได้หยิบไขควงเย็บกระสอบที่แอบซ่อนไว้ในข้างรองเท้า แทงเข้าที่แขนของตัวเองทะลุจนได้รับบาดเจ็บเลือดไหลจำนวนมาก ทางตำรวจจึงเร่งให้ความช่วยเหลือปฐมพยาบาลในเบื้องต้นพร้อมทั้งเรียกรถโรงพยาบาลราชบุรีเข้ามาทำการช่วยเหลือ มีเจ้าหน้าที่พยาบาลเข้ามาช่วยทำแผลและนำตัวขึ้นรถเพื่อส่งส่งโรงพยาบาลรักษาบาดแผลต่อไป