เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่สำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายนิติ วิทยาเต็ม รองอธิบดีกรมศุลกากร พ.ต.อ.โชคชัย วระศาสตร์ ผกก 2 บก.ปส.1 บช.ปส. นายพีรพงศ์ รำพึงจิตต์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. และ นายธนะพงษ์พัฒน์ ธนะโสภณ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานดอนเมือง ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายสุกแดล อายุ 39 ปี สัญชาติอินเดีย ผู้โดยสารลักลอบนำเข้าโคคาอีน น้ำหนักรวมหีบห่อประมาณ 5,755 กรัม มูลค่าประมาณ 17 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง กทม.

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา กรมศุลกากรได้บูรณาการร่วมกับหน่วยสกัดกั้นยาเสพติดทางท่าอากาศยานนานาชาติ (Airport Interdiction Task Force: AITF) ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานดอนเมือง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ส่วนสืบสวนและปราบปราม 3 กองสืบสวนและปราบปราม เจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 และเจ้าหน้าที่ส่วนปฏิบัติการข่าวและปราบปรามยาเสพติด 6 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้ตรวจพบนายสุกเเดว (ไม่มีนามสกุล) อายุ 39 ปี สัญชาติอินเดีย มีลักษณะต้องสงสัย เดินทางมาจากท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบาง (Luang Prabang International Airport) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ถึงปลายทางท่าอากาศยานดอนเมืองในวันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. 67 เวลาประมาณ 16.40 น. ซึ่งจากการเอกซเรย์กระเป๋าสัมภาระ พบว่าภาพเอกซเรย์มีลักษณะผิดปกติ จึงทำการตรวจค้นอย่างละเอียด พบกระเป๋าเป้แบบสะพายหลังและกระเป๋าหูหิ้วแบบสตรี มีน้ำหนักมากผิดปกติ คาดว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในช่องลับของกระเป๋า

โดยผลการตรวจสอบผงสีขาวที่บรรจุอยู่ภายในหีบห่อสีน้ำตาลพันด้วยเทปใส ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในช่องลับของกระเป๋าเป้แบบสะพายหลังและกระเป๋าหูหิวแบบสตรี ด้วยน้ำยาทดสอบเบื้องต้นของยาเสพติดชนิดโคคาอีน ผลการทดสอบได้สารสีฟ้าแสดงว่าวัตถุต้องสงสัยเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน จำนวน 4 ห่อ น้ำหนักรวมหีบห่อประมาณ 5,755 กรัม มูลค่าประมาณ 17 ล้านบาท

เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่า “นำยาสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน (COCAINE) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด และเป็นความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 252 ประกอบมาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.โชคชัย กล่าวว่า เบื้องต้นตัวของผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวน โดยอ้างว่ายาเสพติดลอตนี้รับมาจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวไปเพื่อส่งต่อไปยังอินเดีย ซึ่งตำรวจไม่ปักใจเชื่อส่วนประวัติการเสพยาหรืออาชญากรรมของตัวผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากเป็นชาวต่างชาติจึงต้องทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ทั้งนี้ของกลางที่เป็นยาเสพติดทั้งหมดเมื่อดำเนินคดีเสร็จสิ้น จะนำไปส่งยังกระทรวงสาธารณะสุขเพื่อทำลายตามขั้นตอนต่อไป.