เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทน เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) และ พ.ต.อ.วิจิตร บุญวรรณ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.มุกดาหาร พร้อมด้วยสำนักงาน กสทช. ภาค 2 และเขต 25 นครพนม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานีวิทยุคมนาคม และการให้บริการโทรคมนาคมบริเวณชายแดนที่อาจถูกนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมออนไลน์ และการพนันออนไลน์ช่วงแข่งขันฟุตบอลยูโร บริเวณพื้นที่ชายแดน อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ฟุตบอลยูโร 2024  คาดว่าจะมีการเล่นพนันออนไลน์มากขึ้น และอาจส่งผลให้มีการใช้งาน (Traffic) อินเทอร์เน็ตมากผิดปกติ จึงได้สั่งการให้สำนักงาน กสทช. ภาค และเขตทั่วประเทศ ลงพื้นที่ตรวจการใช้สถานีวิทยุคมนาคม รวมทั้งตรวจเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่บริเวณแนวชายแดนทั่วประเทศ โดยเพิ่มความถี่ในการลงพื้นที่มากขึ้น เนื่องจากอาจมีการลักลอบใช้สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จากไทยข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

“ตอนนี้สำนักงาน กสทช. ได้แจ้งผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกค่าย ส่งข้อมูลปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตในบริเวณชายแดนช่วงนี้ทุกวัน โดยส่งกลับมายังสำนักงาน กสทช. ทุก ๆ 3 วัน เพื่อให้เห็นปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ต และติดตามข้อมูลบ้านพักอาศัยที่มีการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตมากผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการลักลอบใช้งาน สำนักงาน กสทช. จะลงพื้นที่สุ่มตรวจในอีกหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และเข้มข้นขึ้น เพื่อสกัดการลักลอบใช้อินเทอร์เน็ตข้ามประเทศผิดกฎหมาย เป็นต้นตอของอาชญากรรมออนไลน์ ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงนี้” นายไตรรัตน์ กล่าว 

นายไตรรัตน์ กล่าวว่า อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร เป็นพื้นที่ที่ 5 ที่สำนักงาน กสทช. ลงพื้นที่บริเวณแนวตะเข็บชายแดน เพื่อสุ่มตรวจการแพร่สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ข้ามประเทศ โดยใช้รถตรวจสอบสัญญาณคลื่นความถี่เข้าตรวจสอบ โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา สำนักงาน กสทช. ได้ลงพื้นที่บริเวณชายแดนไปแล้วจำนวน 4 พื้นที่ 4 จังหวัด คือ บริเวณแนวชายแดน อ.แม่สอด และอ.แม่ระมาด จ.ตาก  และอ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งอยู่ในแผนการสุ่มตรวจ 7 พื้นที่แรก ส่วนอีก 2 พื้นที่เป็นพื้นที่นอกเหนือจากแผน โดยได้ลงพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์

สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบสถานีวิทยุคมนาคม และการให้บริการโทรคมนาคมบริเวณชายแดน จ.มุกดาหาร พบว่ามีการตั้งสถานีวิทยุคมนาคมที่ไม่ได้รับอนุญาตจำนวน 3 จุด บริเวณพื้นที่ที่มีแนวชายแดนระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยใช้สายอากาศแบบเชื่อมต่อโครงข่ายไร้สายระยะไกล (Wireless Link) และหันทิศทางสายอากาศไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 ฐานมีใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม และตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยสำนักงาน กสทช. จะดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.