เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 16 มิ.ย. ขณะที่ พ.ต.ต.วฤทธิ์ การยูรวัฒน์ สว.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้รับแจ้งจากจ.ส.ต.ธนาวิสิษฐ์ สำนักนิตย์ เจ้าหน้าที่สิบเวร ว่า รถจยย.ยามาฮ่า รุ่น เอ็นแม็กซ์ สีขาว ทะเบียน 5กฐ 2567 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถจยย.ส่วนตัวที่จอดไว้ใน สน.ปทุมวัน ได้ถูกคนร้ายลักไป

จ.ส.ต.ธนาวิสิษฐ์ ให้การว่า ตนขี่รถจยย.คันดังกล่าวมาทำงานตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ และออกเวรในเวลา 16.00 น. โดยจอดรถจยย.ไว้ที่สำหรับจอดรถจยย.ด้านหลังโรงพัก ซึ่งมีรถจยย.ตำรวจ จยย.ของกลางจอดอยู่หลายคัน หลังจากออกเวรตนรีบขึ้นรถแท็กซี่ออกไปทำธุระส่วนตัว จนลืมไปว่าได้เสียบกุญแจคาไว้ที่รถ เมื่อกลับมาเข้าเวรช่วงเช้าวันนี้ จึงเดินไปเพื่อจะถอดกุญแจออกมาเก็บไว้ ปรากฏว่ารถจยย.ได้สูญหายไปจากที่จอด เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดรอบโรงพักพบว่า ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. วันนี้ (16 มิ.ย.) มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น อายุราว 20-25 ปี ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว สวมโสล่ง เดินเข้าไปหลังโรงพัก แล้วขี่รถจยย.คันดังกล่าวออกไป

หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนได้ประสานฝ่ายสืบสวนให้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ถึงเส้นทางหลบหนีของคนร้าย เพื่อติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเวลา 11.00 น. จ.ส.ต.ธนาวิสิษฐ์ ได้รับการติดต่อจากตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ป้อมแยกแพรกษา ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ว่าพบรถจยย.คันที่แจ้งหายไว้แล้ว ขณะนี้ได้เก็บรถคันดังกล่าวไว้ที่ป้อมจราจรแยกแพรกษา ขอให้นำเอกสารการครอบครองและใบแจ้งความไปรับรถคืน

ด้าน ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ คณาวงศ์ รอง สวป.สภ.เมืองสมุทรปราการ คนพบรถคันดังกล่าว เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ตนรับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ให้ไปตรวจสอบหญิงวิกลจริตอาละวาด ก่อความเดือดร้อน อยู่บริเวณหน้าโรงรับจำนำในตลาดแพรกษา

เมื่อไปถึงก็พบหญิงวิกลจริตกำลังเข็นรถจยย.ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีขาว ทะเบียน 5กฐ 2567 กรุงเทพมหานคร อยู่ริมถนนแพรกษา ห่างจากตลาดประมาณ 200 เมตร จึงเรียกเพื่อสอบถาม หญิงรายดังกล่าวพูดไม่รู้เรื่อง จึงได้ยึดรถคันดังกล่าวไว้ แล้วขี่ไปที่ตลาด ถามหาเจ้าของ ไม่มีผู้แสดงตนว่าเป็นเจ้าของ จึงได้ตรวจสอบผู้ครอบครองจากเลขทะเบียนรถ ก็พบว่าเป็นของ จ.ส.ต.ธนาวิสิษฐ์ จึงได้ติดต่อให้มารับรถดังกล่าว

จ.ส.ต.ธนาวิสิษฐ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้รถคืน เพราะรถคันนี้ตนเพิ่งผ่อนหมดได้ 2 ปี และน่าจะเป็นคนโชคดี 1 ในล้านที่ได้รถคืนเพราะคนบ้าช่วย นับเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ครั้งต่อไปจะไม่ลืมกุญแจคาไว้ที่รถอีกแล้ว.