เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ร.ต.อ.อภิมุข สุวพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรคดีจราจร ได้รับแจ้งเหตุมีอุบัติเหตุรถกระบะเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนประชาอุทิศ ก่อนถึงวัดศรีคุณเมือง (วัดบ้านเหล่า) หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ แต่เมื่อไปถึงพบว่าเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี กำลังช่วยกันปฐมพยาบาล นายเอกอนันต์ นาคะรัตน์ อายุ 47 ปี ชาว อ.เมือง จ.อุดรธานี มีแผลแตกที่กลางหน้าผาก เลือดไหลเต็มใบหน้า ส่วนคู่กรณีชื่อนายอรรถพร กลัดแก้ว อายุ 35 ปี ชาว อ.เมือง จ.เพชรบุรี ยืนอยู่ในที่เกิดเหตุ

สอบสวนทราบว่า นายอรรถพร และภรรยา ขับรถกระบะตู้ทึบ นิสสัน นาวาร่า ทะเบียน บพ 4345 เพชรบุรี มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุดรธานี ส่วนนายเอกอนันต์  ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เทน่า ทะเบียน คบล 793 อุดรธานี จะขี่ไปทางสวนสาธารณะหนองสิม ทั้งคู่ขับสวนกันที่หน้าวัดศรีคุณเมือง จนเกือบจะเฉี่ยวชนกัน นายอรรถพร จึงบีบแตรรถกระบะใส่ และตะโกนด่า นายเอกอนันต์ จึงขับวนกลับมาเพื่อเคลียร์ปัญหา และได้จอดรถทะเลาะวิวาทกันที่หน้าร้านอาหารอินเดีย จนประตูร้านอาหารพังเสียหาย โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดของคลินิกเสริมความงามฝั่งตรงข้ามบันทึกภาพเอาไว้ได้

ในภาพวงจรปิดจะเห็นรถกระบะขับมาตามทาง เมื่อเห็นรถจักรยานยนต์ขี่ตามหลังมาได้หยุดชะลอรถ รถจักรยานยนต์ก็ขี่แซงขวามาแล้วจอด รถกระบะจึงขับตามอีกครั้ง และจอดรถลงมาโต้เถียงกัน ก่อนที่นายอรรถพร คนขับกระบะ จะกระโดดถีบนายเอกอนันต์  และชกต่อยกันไปมา จนไปล้มใส่ประตูร้านอาหารอินเดียที่ปิดอยู่จนพังเสียหาย เมื่อทั้งคู่แยกกัน นายเอกอนันต์  ได้พยายามขี่รถจักรยานยนต์หนี แต่นายอรรถพร  ได้รั้งท้ายรถเอาไว้ จนรถจักรยานยนต์ล้ม ก่อนจะไปนั่งรอเจ้าหน้าที่อยู่หน้าตึกใกล้กัน     

นายเอกอนันต์  เล่าว่า ตนมีบ้านพักอยู่ที่บ้านเดื่อ กำลังจะขี่จักรยานยนต์กลับ เมื่อมาถึงหน้าวัด ก็ขี่สวนทางกันตรงโค้ง ตนก็อยู่ในเส้น เขาก็อยู่ในเส้น แต่เขาก็บีบแตรใส่ และร้องตะโกนด่าตน ตนโมโหจึงขี่วนกลับมาขอเคลียร์ปัญหา ว่าเขาด่าตนทำไม เมื่อจอดรถได้เขาก็เข้ามาทำร้ายตนก่อนทันที ที่ตนหัวแตกอาจจะแตกตอนล้ม หรือโดนหน้าข้างเขาก็ได้

นายอรรถพร  เล่าว่า ตนมีอาชีพค้าขาย วันนี้ตนมาจาก จ.หนองคาย จะเข้ามาทำธุระในตัวเมืองอุดรธานี เมื่อขับมาถึงหน้าวัดที่เป็นทางโค้ง คู่กรณีเขาเข้าโค้งมาจนเกือบจะชนรถของตน ตนจึงชะลอและหักหลบ ด้วยความโมโหว่าเกือบจะเกิดอุบัติเหตุ ตนจึงบีบแตร และร้องตะโกนด่าเขาไป จากนั้นตนก็ขับมาตามทาง เขาก็ยังเลี้ยวรถวนกลับมาหาเรื่องตนอีก เขามีท่าทียึกยักจะต่อยตน ตนโมโห จึงต้องต่อสู้กันเพื่อป้องกันตัวเอง ตนต่อยเขาไปหลายครั้ง แต่ก็โดนต่อยกลับมาหลายครั้งเช่นกัน

เบื้องต้นคู่กรณีทั้ง 2 ได้เดินทางไปลงบันทึกแจ้งความไว้กับ พ.ต.ท.กุศล สิทธิขันแก้ว สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี โดยมีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ทั้ง 2 คน แต่มีผลเป็นศูนย์ จากนั้นได้ให้ทั้ง 2 คน ไปตรวจร่างกายและตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป