สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ว่านายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เดินทางไปยังสวนสัตว์แอดิเลด ในเมืองแอดิเลด ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย เมื่อวันอาทิตย์ เพื่อเยี่ยมเยียน “หวัง หวัง” และ “ฟู หนี่” คู่แพนด้าเพศผู้และเพศเมีย ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งมอบให้ เมื่อปี 2552
อย่างไรก็ตาม การที่แพนด้าทั้งสองตัวยังไม่สามารถให้กำเนิดทายาทได้ หลังเวลาล่วงเลยมานาน 15 ปี นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า จะมีการนำแพนด้าคู่นี้กลับไปภายในสิ้นปีนี้ และจะส่งแพนด้าคู่ใหม่มาให้ในอนาคต “ซึ่งจะน่ารักน่าเอ็นดูไม่แพ้กัน”
ทั้งนี้ หลี่กล่าวด้วยความเอ็นดูระหว่างเยี่ยมเยียนแพนด้าทั้งสองตัวว่า “พวกมันอาจคิดถึงบ้านมาก” และให้เหตุผลเพิ่มเติมด้วยว่า การเปลี่ยนตัวคู่แพนด้าเพื่อขอบคุณนางเพนนี หว่อง รมว.การต่างประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นชาวเมืองแอดิเลด และเป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญ ผลักดันการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับออสเตรเลีย
อนึ่ง หลี่นับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของรัฐบาลปักกิ่ง ซึ่งเยือนออสเตรเลีย นับตั้งแต่ปี 2560 โดยนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวเมื่อเดินทางถึงออสเตรเลีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่า “ความไว้เนื้อเชื่อใจ” ร่วมด้วย “การแสวงหาจุดร่วมและสงวนจุดต่าง” และการส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน คือกลไกสำคัญของการพัฒนาความสัมพันธ์
ปัจจุบัน สัมพันธ์ระหว่างจีนกับออสเตรเลีย อยู่บนแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ โดยรัฐบาลปักกิ่งทยอยยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าต่อสินค้าส่งออกสำคัญหลายรายการของออสเตรเลีย ไม่ว่าจะเป็น ไวน์ ไม้ ข้าวบาร์เลย์ และเนื้อวัว หลังบังคับใช้ในสมัยรัฐบาลอนุรักษนิยมของออสเตรเลีย เมื่อปี 2563 ซึ่งทั้งสองประเทศขัดแย้งกันหลายเรื่อง ทว่ามาตรการคว่ำบาตรกั้งหินออสเตรเลียยังคงอยู่
แม้รัฐบาลแนวเสรีนิยมของนายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบาเนซี ซึ่งรับตำแหน่งเมื่อปี 2565 พยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีน แต่มาตรการคว่ำบาตรของรัฐบาลปักกิ่งต่อผลิตภัณฑ์ของออสเตรเลีย ในยุครัฐบาลชุดก่อนหน้า สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของออสเตรเลียปีละ 20,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 485,730.20 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม การที่ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในสมาชิกความร่วมมือไตรภาคี “ออคัส” กับสหรัฐและสหราชอาณาจักร และเดินหน้าโครงการมีเรือดำน้ำขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์เป็นของตัวเอง สร้างความไม่พอใจให้กับจีนอย่างมาก.
เครดิตภาพ : AFP
