เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (15 มิ.ย.67) พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างว่า เป็นคนของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาธิการ สามารถช่วยเหลือวิ่งเต้นให้เข้ารับราชการครูหรือดำรงตำแหน่งข้าราชการในโรงเรียนได้ แต่จะต้องเสียค่าดำเนินการรายละ 470,000 บาท โดยตระเวนหลอกเหยื่อให้หลงเชื่อในเขต อ.เมืองบุรีรัมย์ จนมีผู้เสียหายแล้วอย่างน้อย 5 ราย จากนั้นได้สั่งการให้ พ.ต.อ จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์, พ.ต.ท.ชำนาญ ช่วงไกร รองผกก.(สืบสวน) ,พ.ต.ท.สุชาติ นาสารีย์ สารวัตร(สืบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง
จนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุหลอกลวงคือ นายกี้ (ขอสงวนชื่อสกุลจริง) หรือ ครูกี้ อายุ 33 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ เคยรับราชการครูใน จ.บุรีรัมย์ แต่ชิงลาออกเมื่อเดือน ก.พ. 2567 เพราะถูกแจ้งความดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันที่ อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ โดยคนร้ายมีพฤติการณ์รับโอนเงินค่าจองตำแหน่งข้าราชการครูผู้ช่วยจำนวน รายละ 150,000 บาท เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 มีการนัดหมายทำสัญญากู้ยืมเงินเพื่อเป็นหลักประกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้น
โดยคนร้ายได้นัดหมายที่ร้านกาแฟอเมซอน ภายในปั้มปตท.สาขากระสัง ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ วันที่ 22 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 15.50 น. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้สอบปากคำมีผู้เสียหายรวม 5 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการพิสูจน์ทราบตามคำให้การของพยาน ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดร้านกาแฟอเมซอน ภายในปั้มปตท.สาขากระสัง ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ วันที่ 22 มีนาคม 2567เวลาประมาณ 15.50 น. พบคนร้ายมาตามที่ผู้เสียหายนัดหมายจริง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติการกระทำผิดพบว่า บุคคลที่ก่อเหตุ คือ อดีตข้าราชการครูที่ลาออกไปเมื่อต้นเดือน ก.พ.67 และยังพบว่าเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2566 – วันที่ 3 มิถุนายน 2566 เคยมีประวัติเกี่ยวกับการหลอกผู้เสียหายเข้ารับราชการครู รายละ 680,000 บาท เหตุเกิดในท้องที่ สภ.หนองบัวแดง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ และท้องที่ สภ.นาเชือก อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม
ต่อมาศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกหมายจับ นายกี้ เลขที่ 103/2567 ลงวันที่ 26 เมษายน 2567 ในความผิดฐาน “…ฉ้อโกงและเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจ หรือได้จูงใจเจ้าพนักงานสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐสมาชิกสภา จังหวัดหรือสมาชิกสภาเทศบาลโดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมายหรือโดยอิทธิพลของตนให้กระทำการหรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใด…”
จนกระทั่งมาจับกุมได้ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้หลอกเอาเงินผู้เสียหายไปจริง ทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาตามหมายจับ ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.
