นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ได้กำชับให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เร่งดำเนินการ ในกรณีข้อมูลรายชื่อและเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ผ่านการคัดเลือก สว. ระดับอำเภอ จำนวนกว่า 20,000 ราย เกิดการรั่วไหลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ตามที่เป็นข่าว

ทั้งนี้ขอเตือนประชาชนว่า อย่าเผยแพร่ หรือ แชร์ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลบัตรประชาชน หรือข้อมูลสุขภาพ เพราะอาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีโทษทั้งจำทั้งปรับ และมีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี ขึ้นกับพฤติกรรมและลักษณะข้อมูล และอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายอื่นด้วย

ด้าน นายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการ สคส. ได้กล่าวว่า ในกรณีนี้ สคส. ได้มีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อทำการตรวจสอบ หาข้อเท็จจริง ในเบื้องต้น สคส. ได้ขอให้สำนักงาน กกต. ประสานเว็บไซต์ต่างๆ ระงับการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวแล้ว พร้อมให้ปรับปรุงมาตรการป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับสมัครการเลือกตั้ง รวมถึงผู้มาใช้สิทธิการเลือกตั้งเกิดการรั่วไหลหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต

นอกจากนี้ สคส. ยังทำงานกับสำนักงาน กกต. อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นสร้างมาตรการที่รัดกุม เพื่อไม่ให้มีการเผยแพร่ข้อมูลอย่างไม่เหมาะสม เช่น งดเว้นการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจเกินความจำเป็นต่อภารกิจที่เกี่ยวข้อง การจำกัดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและวางขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลที่รัดกุมก่อนการเผยแพร่ รวมถึงให้เจ้าหน้าที่จากสำนักตรวจสอบและกำกับดูแล ของ PDPC เข้าตรวจสอบการทำงานเป็นระยะ เพื่อสร้างมาตรฐานที่ปลอดภัยและลดความเสี่ยงข้อมูลรั่วไหล

เลขาธิการ สคส. กล่าวเพิ่มว่า รมว.ประเสริฐ ได้มอบนโยบายให้ สคส. โดย ศูนย์ PDPC Eagle Eye ทำการติดตาม เฝ้าระวัง และตรวจสอบการรั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง และหากพบการรั่วไหลของข้อมูล PDPC Eagle Eye จะเร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลบและแก้ไขในทันที