นางสาวปิยนันท์ คุ้มครอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านจัดหาโลหิตและภาพลักษณ์องค์กร ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วงโควิดที่ผ่านมาสภากาชาดไทยขาดแคลนโลหิตเป็นอย่างมาก และถึงแม้ว่าสถานการณ์จะเริ่มกลับมาปกติแล้ว แต่การจัดการโลหิตก็ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และสามารถจ่ายโลหิตไปตามโรงพยาบาลได้เพียงร้อยละ 50 – 60 เท่านั้น สวนทางกับความต้องการของโรงพยาบาลที่สูงอยู่ ซึ่งจากสถิติผู้บริจาคโลหิตที่เป็นเยาวชนหลังจากช่วงโควิดมีจำนวนลดลงไปมากกว่าร้อยละ 10 จากเดิมที่เคยมีถึงร้อยละ 24 ทำให้ต้องมีการรณรงค์เชิญชวนให้มาบริจาคโลหิตเพิ่มมากขึ้น หรือเชิญชวนคนที่เคยบริจาคโลหิตให้กลับมาบริจาคอีกครั้ง เพราะยังมีความต้องการโลหิตอีกมาก และการบริจาคโลหิตไม่สามารถทำโดยกระบวนการวิทยาศาสตร์และต้องทำผ่านมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น

ปัจจุบันศูนย์บริจาคโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ไม่สามารถจัดหาโลหิตให้ได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการ ทำให้ที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยรับบริจาคโลหิต อย่างเช่น เครือซีพีและกลุ่มบริษัทในเครือฯ ก็เป็นหนึ่งในหลายหน่วยงานที่ดำเนินโครงการ “ทําดีด้วยการบริจาคโลหิต” มายาวนานกว่า 33 ปี สามารถต่อชีวิตให้กับคนที่ต้องการมาแล้วกว่า 1 ล้านคน โดยซีพีมีการจัดกิจกรรมรณรงค์บริจาคโลหิตเป็นประจำทุก 3 เดือน ทำให้สภากาชาดไทยมีเลือดสำรองเพียงพอต่อการนำไปจ่ายให้กับโรงพยาบาลที่ต้องการเพิ่มมากขึ้น

“การช่วยคน 1 คนไม่เพียงแต่ช่วยแค่คนเดียว แต่เมื่อคนนั้นหายป่วย ยังช่วยให้คนในบ้านครอบครัวของเขามีความสุขตามไปด้วย และคนที่หายป่วยก็ยังสามารถกลับมาเป็นผู้ให้เพื่อส่งต่อไปยังผู้ป่วยคนอื่น ๆ ได้อีก”

นายวัลลภ เจียรวนนท์ รองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดหาและส่งเสริมผู้ให้โลหิตแห่งสภากาชาดไทย กล่าวว่า ซีพีมีความตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ จึงร่วมมือกับสภากาชาดไทยมาตั้งแต่ปี 2534 เพื่อส่งเสริมการบริจาคโลหิตให้แก่เหล่ากาชาดจังหวัด ศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดไทย และภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ตลอด 33 ปีที่ผ่านมามีปริมาณโลหิตสะสมมากกว่า 221 ล้านซีซี และสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยมากกว่า 1.7 ล้านคน โดยตั้งแต่ปี 2534 ได้สนับสนุนสภากาชาดไทยออกรับบริจาคโลหิตนอกสถานที่ ซึ่งซีพีได้จัดให้มีการบริจาคโลหิตตามอาคารสำนักงาน โรงงาน ของซีพีและบริษัทในเครือทั่วประเทศ โดยเชิญชวนบุคคลทั้งภายในและภายนอกอาคารมาร่วมบริจาคโลหิต อาทิ อาคารซีพี ทาวเวอร์ สีลม ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของซีพีจัดให้มีการบริจาคโลหิตเป็นประจำทุก 3 เดือน เป็นต้น

“เนื่องจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีหลายกลุ่มธุรกิจ เปรียบเสมือนครอบครัวใหญ่ จึงเกิดแนวความคิดเชิญชวนทุกกลุ่มธุรกิจได้มาพบปะสังสรรค์ผนึกพลังความสามัคคีทำความดีร่วมกันให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมส่วนรวม โดยจัดเป็นกิจกรรมชื่อว่า CP BLOOD DONATION DAY ทั้งในภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน และเลือกระยะเวลาในการจัดกิจกรรมในช่วงเดือนมีนาคม เมษายน กันยายน และตุลาคม ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สภากาชาดไทยขาดแคลนโลหิตเป็นอย่างมาก” นายวัลลภ กล่าว

ทั้งนี้ซีพีได้มีการกำหนดเป้าหมายต่อปีอย่างชัดเจน เริ่มจาก 15,000 ยูนิต เพิ่มเป็น 20,000 ยูนิต สำหรับปีปัจจุบันซึ่งเป็นปีมหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ จึงเพิ่มเป้าหมายเป็น 25,000 ยูนิต หรือ 10 ล้าน ซี.ซี. ซึ่งได้มีการขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในทุกกลุ่มธุรกิจ จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตตามความเหมาะสม หน่วยงานใหญ่มีบุคลากรมากจัดบริจาคภายในหน่วยงาน หน่วยงานเล็กบุคลากรน้อยให้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและส่งบุคลากรไปร่วมบริจาค