ทนไม่ไหวจนต้องออกมาพูดจนได้ สำหรับ ลิลลี่ เหงียน นักแสดงชาวเวียดนาม ที่ออกมาร่ำไห้ร่ายยาวถึง อดีตนางงาม ป. ยืมเงิน 6 แสน แล้วไม่ยอมคืนสักที ปล่อยเวลานานร่วมปี แต่ตนเองก็ยังให้อภัย แต่ที่เจ็บใจที่สุด ล่าสุดมาหลอกขอยืมเงินเพิ่มอีก 7 หมื่น ซึ่งเป็นค่ารักษาลูกชายกำลังป่วย แล้วไม่ยอมคืนตามสัญญา เตรียมแจ้งความเหมือนกัน

“หนูเห็นพี่ลูกหมีนางแบบแถลงข่าวทวงเงินพี่ ป. แล้ว ตอนนี้รู้สึกว่าหนูต้องทำอะไรสักอย่างบ้างแล้ว หนูรู้จักพี่ ป. จากรุ่นพี่ที่สนิทอีกคนหนึ่ง พอรู้จักกันได้วันเดียว พี่ ป. ก็โทรฯ มาขอยืมเงินหนู 5แสน หนูก็ไว้ใจ เพราะเห็นว่าเป็นคนมีชื่อเสียง เห็นเขาพูดดีว่าจะพาเราเข้าช่อง 7 หนูก็ไว้ใจ ผ่านไปตามที่นัดหมายว่าจะคืน เขาก็ไม่ยอมคืนสักที ผ่านไป 2 อาทิตย์ โทรฯ มาขอยืมเพิ่มอีก 3 แสน หนูก็ใจดีให้ยืม สุดท้ายพี่เขาก็ไม่ทำตามสัญญาคืนเงิน เลื่อนไปเรื่อยๆ นานร่วมปี จากนั้นพี่เขาก็ทยอยจ่ายคืนมา 2 แสน เท่ากับว่าพี่ ป. เป็นหนี้เราอีก 6 แสน หนูทำใจแล้ว เพราะเป็นปีแล้วไม่ยอมคืนสักที ที่เจ็บใจที่สุดเมื่อไม่กี่วันนี่เอง หนูเหลือเงินติดตัวแค่ 9 หมื่น ลูกชายอยู่โรงพยาบาล เขาก็โทรฯ มาขอยืมเงิน 7 หมื่น อ้างว่าเดี๋ยวคืนนี้โอนให้เลย”

“หนูก็บอกกับพี่ ป. ไปว่านี่คือเงินค่ารักษาลูกหนูนะ และเป็นเงินที่ต้องจ่ายค่าประกันแม่กับลูกด้วย ยังไงพี่ต้องคืนนะ หนูถูกโกงเงินไปเยอะมาก พี่ก็เห็น อย่าให้หนูต้องรู้สึกแย่ไปกว่านี้นะ สรุปไม่ยอมคืนเงินหนูอีก จนมาเห็นพี่ลูกหมีนางแบบแถลงข่าว นักข่าวที่รู้ว่าคู่กรณีของพี่ลูกหมี คือคนเดียวกันที่ยืมเงินหนูเหมือนกัน และเห็นว่ายังมีอีกหลายคนที่พี่ ป. ยืมเงินไปแล้วไม่คืน ถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างหนูกับพี่ ป. เรารู้สึกดีกันนะ หนูให้อภัยพี่เขามาตลอด จนมาเจ็บใจที่สุดก็ 7หมื่นสุดท้ายนี่แหละ เงินก้อนนี้คือค่ารักษาลูก และค่าประกันชีวิตครอบครัวหนู พี่เขาก็ยังมาหลอกกันได้อีก หนูเสียใจมาก ตอนนี้หนูไม่เหลือเงินแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไร”

“เห็นว่าวันที่ 20 มิ.ย. นี้ ทุกคนจะไปรวมตัวกันที่ สน.ทองหล่อ ถ้าพี่เขาไม่คืนเงินมา หนูคงต้องไปแจ้งความร้องเรียนจริงๆ แล้ว ชีวิตตอนนี้ตกอับมาก มีคนโทรฯ มาบอกว่าลิลลี่รับงานเอ็นไหม จะได้มีเงิน หนูเสียใจมาก โทรฯ ปรึกษาพี่ ป. เขาก็พูดดีว่าอย่าไปทำนะ รอพี่ก่อน แต่สุดท้ายพี่ ป. เขาก็ไม่ยอมคืนเงินสักที ขอร้องเถอะ คืนเงินหนูบ้าง พี่เดือดร้อนหนูก็ช่วย ตอนนี้หนูเดือดร้อน ขอให้พี่ ป. คืนเงินหนูบ้างเถอะค่ะ”