The Boys “ก๊วนหนุ่มซ่าล่าซูเปอร์ฮีโร่” ซีซั่น 4 มาแล้วในวันนี้ พร้อมกับการการันตีความโหด มัน ฮา ให้เหล่าสาวกซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจ Prime เตรียมเฮกันอีกครั้ง!

สิ้นสุดการรอคอย 2 ปีที่หลายคนรอการกลับมาของ “ซูเปอร์ฮีโร่” ที่เดิมเคยมีแผนที่จะสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่ก็เปลี่ยนมาเป็นซีรีส์แนว Action Dark Comedy ที่หลายคนจดจำตัวละครกันได้อย่างดี ไม่แพ้ซูเปอร์ฮีโร่ในจักรวาลไหน ๆ เลย!

โดยในครั้งนี้ ทาง เดลินิวส์ออนไลน์ ได้รับโอกาสจากทาง Prime Video TH ในการไปรับชมรอบสื่อของซีรีส์ The Boys ซีซั่น 4 เมื่อคืนวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนที่ซีรีส์จะมีการฉายจริงผ่าน Prime Video ในวันถัดไป โดยความรู้สึกหลังจากได้รับชม รวมถึงภาพรวมทั้งหมดของซีรีส์นี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปอ่านต่อกันได้เลยที่นี่!

ทำความรู้จักกับ The Boys กันก่อน!

The Boys หรือในชื่อไทยว่า ก๊วนหนุ่มซ่าล่าซูเปอร์ฮีโร่ คือซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่แนวเสียดสีสังคม ของ Prime Video โดยผู้กำกับ อีริก คริปเก (Eric Kripke) นี่คือซีรีส์ที่ครองใจผู้ชมทั่วโลก ด้วยอารมณ์ขันแบบตลกร้าย ฉากแอ๊คชั่นเลือดสาดกระจาย และการวิจารณ์สังคมแบบไม่ยั้งมือ!

ซีรีส์เรื่องนี้ สร้างจากคอมิกส์ชื่อดัง ด้วยเรื่องราวสุดแสบและแหวกขนบเดิม ๆ เมื่อบรรดาซูเปอร์ฮีโร่กลายเป็นผู้โด่งดังพอ ๆ กับเป็นดารา มีอิทธิพลเทียบเท่ากับนักการเมือง และเป็นที่เทิดทูนดั่งเทพเจ้า แต่พวกเขาต่างพากันใช้พลังอำนาจของพวกเขาในทางที่ผิด

ทั้งหมดนี้ จึงเป็นที่มาของการรวมตัวของกลุ่ม “The Boys” ที่ตั้งขึ้น เพื่อโค่นล้มเหล่าซูเปอร์ฮีโร่แตกแถว และมุ่งมั่นที่จะทำภารกิจกล้าท้าตายในการเปิดโปงความจริงเกี่ยวกับกลุ่ม The Seven และ Vought บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ร่ำรวยและมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ที่มีหน้าที่ในการควบคุมเหล่าซูเปอร์ฮีโร่และช่วยปกปิดความลับสุดแสนสกปรกให้พวกเขา

ตอนจบที่น่าตื่นเต้นของซีซั่น 3 นั้นทำให้แฟนๆ ต่างก็ตั้งตารอชมซีซั่น 4 กันอย่างใจจดใจจ่อ เพื่อต้อนรับการกลับมาของ The Boys ซีซั่น 4  มาดูกันว่ามีอะไรที่แฟนๆ ซีรีส์อยากจะเห็นกันต่อบ้าง

ความรู้สึกหลังได้สัมผัสกับซีรีส์ในรอบสื่อ

สำหรับบรรยากาศในรอบสื่อของ The Boys ซีซั่น 4 ในครั้งนี้ ต้องขออธิบายว่า นี่เป็นการได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดพิเศษในการรับชมทีวีซีรีส์บนจอโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่! โดยปกติแล้วทางซีรีส์ จะมีฉายเฉพาะบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ผ่านอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น พีซี มือถือ แท็บเล็ต หรือบนหน้าจอสมาร์ตทีวี และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

ทำให้การรับชมซีรีส์ 2 ตอนแรกของ The Boys ซีซั่น 4 ในโรงภาพยนตร์ จะได้อรรถรสของความเป็นแอ๊คชั่นเลือดสาด ได้ระบบเสียงที่มีความสมจริง พร้อมกับได้ซึมซับบรรยากาศภายในโรงภาพยนตร์ ที่แฟนหนังในโรงหลายคนก็อาจคุ้นเคยกับบรรยากาศเหล่านี้อยู่บ้าง เพียงแค่ทุกอย่างจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบซีรีส์เท่านั้น!

นอกจากนี้ เหล่าสื่อมวลชนที่ได้ไปรับชม The Boys ซีซั่น 4 ในครั้งนี้ ก็จะมีโอกาสได้รับฟังการพูดคุยจาก คุณแชมป์ จากช่อง JUSTดูIT และ คุณวริศ จากเพจ สมาคมผู้คลั่งไคล้ SuperHero เกี่ยวกับเรื่องราวและภาพรวมของซีรีส์ The Boys กันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ก่อนเริ่มช่วง Screening ของเรื่องอีกด้วย!

ส่วนเรื่องราวของ The Boys ในซีซั่น 4 ที่เปิดมาในช่วง 2 ตอนแรกนั้นก็ต้องยอมรับว่าเป็นการสานต่อเรื่องราวและ “ความคาดหวัง” จากผู้ชมได้อย่างดี พวกเขาไม่มีการทิ้งดีเอ็นเอของความโหด มัน ฮา ออกไปจากซีรีส์ พร้อมกับยังใส่ความเป็นดราม่าให้ผู้คนได้เข้าใจถึงปมและเบื้องหลังของแต่ละตัวละครอีกด้วย!

นอกจากนี้ พวกเขายังมีการนำเรื่องราวล้อเลียนและเสียดสีสังคม การเมือง ความเชื่อ รวมถึงยังมีการนำอ้างอิงจากภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง มาล้อเลียนในชนิดที่เรียกว่าเล่นได้แบบเจ็บแสบ! ในขณะที่ทางโชว์รันเนอร์ อีริก คริปเก (Eric Kripke) เองก็เคยออกมากล่าวไว้ว่าอยากให้ซีรีส์ออกมาเป็นแบบนี้ โดยไม่สนใจว่าใครจะมีความคิดเห็นไม่ดีอย่างไร!

ส่วนใครที่ต้องการจะรับชม The Boys ซีซั่น 4 ผ่านอุปกรณ์ที่รองรับระบบออนไลน์สตรีมมิ่งก็ไม่ต้องกังวลใจ! เพราะอรรถรสเหล่านี้ในการรับชมจะไม่ได้หายไปแม้แต่นิดเดียว ทุกคนสามารถสัมผัสความโหด มัน ฮา ในรูปแบบที่มี 10 คะแนน หลายคนก็อาจต้องให้แบบเกิน ๆ ไปเลย!

ความเดิมในช่วง 3 ซีซั่นที่ผ่านมา เป็นอย่างไรบ้าง

  • ผลจากการอาละวาดของ Butcher ในโหมดนักรบคลั่ง

Hughie ยอมส่งสาร Compound V แบบชั่วคราวให้ Butcher ซึ่งแม้ว่ามันจะทำให้พวกเขาได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าผลข้างเคียงจากการใช้ยาจะเป็นอย่างไร Butcher จะสามารถรักษาพลังเหนือมนุษย์ที่ค้นพบใหม่ของเขาไว้ได้หรือไม่ หรือว่ามันจะต้องแลกมาด้วยราคาแสนแพง 

สมาชิกแก๊ง The Boys นั้นไม่สามารถทนความเดือดดาลบ้าเลือดของ Butcher ได้ แต่การที่เขามีพลังพิเศษ ก็ทำให้เขาอาจกลายเป็นผู้พลิกเกมนี้ได้!

โชว์รันเนอร์ อีริก คริปเก (Eric Kripke) กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ว่า “สิ่งที่เราพบว่าน่าสนใจเกี่ยวกับคำถามที่เราขบคิดเกี่ยวกับตัวบุทเชอร์ก็คือ เขารู้เท่าทันตัวเองมากพอที่จะตระหนักว่าเขาคือคนที่กำลังสร้างเคราะห์กรรมให้ตัวเองหรือเปล่า เขารู้เท่าทันตัวเองมากพอที่จะเห็นว่าตัวเขาเองสามารถเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ นี่คือบทสนทนาที่เราเริ่มคุยกันในการสร้างซีซั่นที่ 4”

  • ภาวะผู้นำของ Starlight

การเสียสละของ Queen Maeve ทำให้เกิดสุญญากาศทางอำนาจใน The Seven ขณะที่ Starlight ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสมาชิกน้องใหม่ผู้อ่อนต่อโลก ในตอนนี้เธอกลายเป็นฮีโร่ผู้ช่ำชอง ซึ่งมีแพลตฟอร์มของตัวเองและผู้ติดตามจำนวนมหาศาล เธอจะเข้าควบคุมและปฏิรูป The Seven จากภายในหรือไม่ หรือ Homelander จะกระชับอำนาจของเขาและบดขยี้ผู้เห็นต่าง!

เอริน มอรีอาร์ตี (Erin Moriarty) ผู้รับบทสตาร์ไลท์เล่าว่า “ในทุกๆ ซีซั่น เราจะเจาะลึกให้เห็นเรื่องราวของตัวละครแต่ละตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวละครที่คุณคิดว่าเป็นตัวร้าย คุณจะได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพวกเขามากขึ้น ซึ่งไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกว่าพวกเขาเป็นคนดี แต่มันมักจะมีรายละเอียดที่คาดไม่ถึง ซึ่งทำให้คุณไม่สามารถตัดสินตัวละครนั้นได้ง่ายๆ ว่าเป็นคนแบบไหน”

  • Black Noir คนใหม่

ในที่สุดเรื่องราวเบื้องหลังอันลึกลับของ Black Noir ก็ได้รับการเปิดเผยแล้ว และมันก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้า Noir เคยพยายามจะเป็นนักแสดงตลกด้วยความปรารถนาที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งคนดัง แต่แล้วความฝันของเขาก็ถูกทำลายโดย Soldier Boy

หลังจากนั้น เขาก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่ามือลอบสังหารเงียบของ Vought จนกระทั่งโฮมแลนเดอร์ยุติความเจ็บปวดของเขาในท้ายที่สุด แต่ดูเหมือนว่านี่อาจไม่ใช่จุดสิ้นสุดของตัวละครตัวนี้

อีริก คริปเก (Eric Kripke) เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์ว่า “แบล็กนัวร์ เป็นบทบาทที่สามารถคัดเลือกนักแสดงใหม่มาแทนได้ง่าย” เนื่องจากผู้ชมไม่เคยเห็นหน้าของเขาเลย ดังนั้น พวกเขาจึงสามารถให้ Supes อีกคนมาสวมรอยเป็นเขาได้อย่างง่ายดาย โดยเขาได้เปิดเผยว่าตัวละครเวอร์ชั่นใหม่นี้ “จะโง่เขลาและตลกขึ้น”

  • การแก้แค้นหรือรุ่งอรุณใหม่ของ The Seven
The Supes

ในช่วงท้ายของซีซั่น 3 The Boys ทำให้ The Seven ตกอยู่ในความโกลาหล ทำให้พวกเขาไม่ได้เป็นกลุ่มแบบเดิมอีกต่อไปแล้วเมื่อ Black Noir ตาย ในขณะที่ Maeve ก็กำลังซ่อนตัว และ “Annie” (Starlight) ก็ไปเข้าร่วมกับ The Boys ส่วนสมาชิกที่เหลืออยู่มีเพียง Homelander, A-Train และ The Deep ซึ่งดูไม่ใช่ทีมที่น่าเกรงขามนัก!

เมื่อ Homelander เป็นผู้ควบคุมดูแลทีมโดยมีลูกชายอย่าง Ryan อยู่เคียงข้าง เป็นไปได้ว่าเขาน่าจะสร้างทีมในแบบของเขาโดยไม่มีความเห็นจาก Stan Edgar แต่คำถามก็คือ แล้วใครจะมาเข้าร่วม The Seven ทีมใหม่นี้ ท้ายที่สุดแล้ว เขาน่าจะต้องการคนที่เขาไว้ใจได้เพื่อสร้าง “ครอบครัวใหม่” ของตัวเอง โดยเฉพาะคนที่หวาดกลัวเขาและพร้อมจะทำทุกอย่างที่เขาสั่ง เห็นได้ชัดว่าทางข้างหน้านั้นน่าหวั่นใจแค่ไหนสำหรับ The Boys!

ความเข้มข้นที่จะเกิดขึ้นภายในซีซั่น 4

นี่เป็นเพียงบางส่วนของเรื่องราวที่ทำให้แฟนคลับของ The Boys ตื่นเต้นที่จะได้ชมความสนุกจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ และด้วยพลังของทีมผู้สร้างสรรค์ซีรีส์ในการก้าวข้ามขีดจำกัด มั่นใจได้เลยว่าซีซั่นที่ 4 นี้จะยิ่งบ้าบิ่น นองเลือด และกระตุกความคิดมากยิ่งขึ้นอีก 

The Boys สร้างจากการ์ตูนที่ขายดีที่สุดของ The New York Times โดย การ์ธ เอนนิส (Garth Ennis) และ ดาริค โรเบิร์ตสัน (Darick Robertson) ซึ่งได้รับหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหารในซีรีส์ และพัฒนาโดยผู้อำนวยการสร้างและโชว์รันเนอร์ อีริก คริปเก (Eric Kripke) 

ในส่วนของซีซั่น 4 ของซีรีส์ จะมีเปิดฉายทั้งหมด 8 ตอน โดยจะแบ่งเป็น 3 ตอนแรกที่ฉายแล้วในวันที่ 13 มิถุนายน ก่อนที่ตอนที่เหลือจะตามมาสัปดาห์ละ 1 ตอน ในทุกวันพฤหัสบดีถัดไป!

The Boys ซีซั่น 4 เปิดฉายแล้ววันนี้! บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Prime Video โดยจะมีพากย์ไทยให้เลือกรับชมได้อีกด้วย! ถ้าใครไม่อยากพลาดเรื่องราวสุดเข้มข้น หรือยังไม่เคยติดตามซีรีส์นี้มาก่อน ก็ขอแนะนำให้ไปรับชมกันได้แล้วตอนนี้!

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก: Prime Video TH

เรื่อง: ภาริช ต่อพิมาย (FLINT K.)