นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 2/2567 ที่ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์

นายภูมิธรรม กล่าวว่า สถานการณ์ราคาข้าวปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่งเราได้มีการเตรียมการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ที่ผ่านมาทุกปีรัฐบาลเสียเงินอุดหนุนเป็นจำนวนมาก จึงต้องหาวิธีการการผลิตที่ดีและลดต้นทุนการผลิต จึงมีการเสนอโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง โดยรัฐบาลจะช่วยครึ่งหนึ่งและชาวนาจ่ายอีกครึ่งหนึ่ง โดยดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันของ ธ.ก.ส. (ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) ให้ใช้งานได้ง่ายและทั่วถึง แล้วจะเชิญชวนผู้ประกอบกิจการผู้ค้าปุ๋ยทุกบริษัทมาเข้าร่วมในราคาเดียวกันหมด เพื่อแก้ปัญหาชาวนาซื้อปุ๋ยแพง ซึ่งปุ๋ยที่ดำเนินการตามสูตรที่ระบุ จะทำให้เพิ่มผลผลิตได้ โดยรัฐไม่ต้องดูแลค่าใช้จ่าย ไร่ละ 1,000 บาท ซึ่งต้องทำให้เร็วที่สุดและเพียงพอ เพื่อให้ทันฤดูกาลการผลิต และอาจมีคณะอนุกรรมการขึ้นมาดูแลและตรวจสอบโครงการให้ชัดเจนโปร่งใสให้ประโยชน์สูงสุดเกิดกับชาวนา

โดยที่ประชุม นบข. วันนี้ ได้มีมติเห็นชอบหลักการโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายปัจจัยการผลิตลดต้นทุนการผลิตข้าวแก่เกษตรกร โดยจะสนับสนุนปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และชีวภัณฑ์ ไม่เกินไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 67/68 ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรเป้าหมาย 4.68 ล้านครัวเรือน วงเงินงบประมาณ 29,994.3445 ล้านบาท โดยมอบหมายให้กรมการข้าวนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเร็วที่สุดภายในเดือนนี้

โดยปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นปุ๋ยที่ได้รับการขึ้นทะเบียน หรือหนังสือสำคัญรับแจ้งถูกต้องตามพระราชบัญญัติปุ๋ย และชีวภัณฑ์ ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนถูกต้องตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถเลือกรับการสนับสนุนปุ๋ยสำหรับนาข้าวที่ขึ้นทะเบียน เบื้องต้นจำนวน 13 รายการ ได้แก่

(1) ปุ๋ยสูตร 25-7-14

(2) ปุ๋ยสูตร 20-8-20

(3) ปุ๋ยสูตร 20-10-12

(4) ปุ๋ยสูตร 30-3-3

(5) ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0

(6) ปุ๋ยสูตร 18-12-6

(7) ปุ๋ยสูตร 16-8-8

(8) ปุ๋ยสูตร 16-12-8

(9) ปุ๋ยสูตร 16-16-8

(10) ปุ๋ยสูตร 16-20-0

(11) ปุ๋ยสูตร 20-20-0

(12) ปุ๋ยอินทรีย์ที่ขึ้นบัญชีนวัตกรรม หรือ ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยอินทรีย์

(13) ชีวภัณฑ์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย

และที่ประชุมฯ ได้เสนอเพิ่มปุ๋ยอีก 3 สูตร ได้แก่ (1) ปุ๋ยสูตร 16-16-16 (2) ปุ๋ยสูตร 15-15-15 และ (3) ปุ๋ยสูตร 13-13-24

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 67 เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรจากผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมอบหมายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป

สำหรับสถานการณ์ข้าวไทย ผลผลิตข้าว ปี 66/67 ผลผลิต 33.05 ล้านตัน ลดลง 0.58 ล้านตันข้าวเปลือก (-2%) เป็นข้าวนาปี 26.83 ล้านตันข้าวเปลือก เพิ่มขึ้น 0.12 ล้านตันข้าวเปลือก (+0.4%) ข้าวนาปรัง 6.22 ล้านตันข้าวเปลือก ลดลง 0.70 ล้านตันข้าวเปลือก (-10%) โดยราคาข้าวไทย (ณ วันที่ 10 มิ.ย. 67) ข้าวทุกชนิดราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมา ขณะนี้ข้าวเปลือกทุกชนิดราคาสูง เนื่องจากรัฐบาลเร่งรัดการส่งออกเพิ่มขึ้น และช่วง มี.ค.-เม.ย. อากาศร้อนจัดผลผลิตออกน้อย ขณะที่ความต้องการซื้อจากในประเทศและต่างประเทศมีต่อเนื่อง โดยราคาข้าวเปลือกต่อตันความชื้น 15% เทียบปีก่อน (10 มิ.ย. 66) ข้าวหอมมะลิ 15,000-16,500 บาท (+8%) ข้าวปทุมธานี 14,600-16,000 (+35%) ข้าวเจ้า 11,700-12,600 (+20%) และข้าวเหนียว 13,800-14,600 (+8%) และการส่งออกข้าวไทย (ม.ค.-เม.ย. 67) ส่งออก 3.40 ล้านตัน (43% ของเป้าหมาย 8.03 ล้านตัน) การส่งออกเทียบปีก่อนมีสัดส่วน ดังนี้ ข้าวขาว 65% ข้าวหอมมะลิไทย 16% ข้าวนึ่ง 9% ข้าว หอมไทย 6% ข้าวเหนียว 3% ข้าวกล้อง 1%