เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่บริษัท ชัยเสรีเม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ชี้แจงกรณีข้อร้องเรียนทหารเกณฑ์ กองทัพภาคที่ 2 ถูกหักค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าดูดส้วม จำนวน 500 บาท ว่า นโยบายตนที่มีมาตลอดว่า ต้องให้ทหารกองประจำการได้รับเงินตอบแทน หรือเงินเดือนที่สูง โดยที่เราตั้งเกณฑ์ไว้ รายได้ประมาณ 10,000 บาท และตนได้พูดชัดแล้วว่า ไม่ให้ไปหัก เงินของทหารกองประจำการ รายการที่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่ทางราชการอนุญาต ซึ่งได้มอบนโยบายและย้ำนโยบายนี้ชัดเจนไปทุกครั้ง ทั้งนี้ ทราบว่ากองทัพบก ก็ย้ำนโยบายนี้ชัดเจน ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ทางกองทัพบก จะเป็นผู้แถลงว่าเป็นจริง ถือว่าเป็นเพียงขั้นตอนอย่างนั้นหรือไม่ หรือว่าเป็นเพียงขั้นตอนไหน แต่ถ้าเป็นจริงก็ต้องไม่ให้เกิด ต้องไปแก้ไข 

เมื่อถามว่า มีโอกาสที่ทหารกองประจำการ จะได้รับเงินเต็มจำนวน 10,000 บาท นายสุทิน กล่าวว่า ส่วนหนึ่งที่เราได้มอบนโยบายไป ก็ต้องสอดคล้องกับการปรับเงินเดือนใหม่ของรัฐบาลด้วย ซึ่งได้ปรับฐานเงินเดือนใหม่ ของเดิมก็อาจจะได้น้อย และทหารใหม่ทางรัฐบาลให้สตาร์ตที่ 10,000 บาท ส่วนราชการก็ 15,000 บาท เพราะฉะนั้นถ้ารัฐบาลปรับแล้ว กรมบัญชีกลาง ได้เริ่มใช้ ตนคิดว่าทหารเรา ก็มีโอกาสได้ใช้เงินเดือนใหม่ 

เมื่อถามต่อว่า พอเกิดเรื่องขึ้นมา หลายคนมองว่ากองทัพเป็นแดนสนธยา เพราะมีการหักหัวคิวใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า คงไม่ใช่แบบนั้น น่าจะอยู่ในระยะปรับตัว ซึ่งอาจจะทำมาก่อน ที่ตนมอบนโยบายไป เพราะฉะนั้น ตนได้เปลี่ยนแปลงนโยบาย ก็น่าจะเชื่อว่าอยู่ระหว่างการปรับตัว ซึ่งวันนี้ก็มีการปรับตัวกันมาก เพราะเราส่งสัญญาณชัดมากๆ เราก็ดำเนินการในเคสนี้ และตนคิดว่า เคสต่อๆ ไปก็ไม่น่าจะมี 

เมื่อถามย้ำว่า เป็นการผลักภาระให้น้องคนเล็กของกองทัพหรือไม่ เพราะค่าดูดส้วมนั้นควรเป็นค่าใช้จ่ายที่หน่วยจะต้องดูแลรับผิดชอบ นายสุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนได้สอบถาม เข้าใจว่าคนบันทึก เสนอหักเงินมา อาจจะไม่เข้าใจรายละเอียดและระเบียบ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ไม่อนุญาตอนุมัติ  

“ผมยืนยัน เรื่องนี้ คนผิดจะต้องมีคนรับผิด ถูกลงโทษ และและต้องให้ความเป็นธรรมเขา แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้น แล้วเราไปชี้เลยเท่ากับเรายังไม่ให้ความเป็นธรรมเขา แต่ถ้าชี้แล้วผิด เราดำเนินการอยู่แล้ว ถ้าผมปกป้องกองทัพ ประชาชนก็ไม่ปกป้องผม แต่ได้ตรวจสอบแล้ว พอมีเรื่อง ผมได้สั่งจเรทหาร ลงไปดูภาพรวมทั่วประเทศ  ซึ่งก็ยังไม่มีรายงานขึ้นมา” นายสุทิน กล่าว

เมื่อถามอีกว่ารับมอบนโยบายไปแล้วแต่ยังมีกำลังพลที่ฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษอย่างไรนั้น นายสุทิน กล่าวว่า ตนสั่งการให้เพิ่มมาตรการเข้มงวดมากกว่านี้ แต่ก็ยังเชื่อว่าไม่มีมาก ซึ่งบางหน่วยก็อาจจะมีความไม่เข้าใจ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนเป็นไปได้หรือไม่ที่เป็นไปได้ว่า หน่วยต่างจังหวัดงบประมาณไม่เพียงพอในการบริหารภายใน นายสุทิน ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ จะได้งบประมาณทั่วถึงหรือไม่ เพราะในระดับงบประมาณพิจารณามาโดยตลอด ตั้งแต่สภาลงมา ถึงแม้งบประมาณไม่พอ เราก็ไม่มีนโยบายให้ไปทำวิธีนี้ ทางหน่วยก็ต้องไปบริหารจัดการวิธีอื่น.