อาจต้องลุ้นกันตัวโก่งสักหน่อย สำหรับแฟน ๆ ของ ทัพฟ้าเหลือง “ยูเครน” ที่สุดท้ายพวกเขาก็ทำได้ตามเป้าหมาย ผ่านเข้าชิงชัยในศึกยูโรอีกครั้ง แม้จะเหนื่อยพอควรกับการเฉือนชนะทีมชาติไอซ์แลนด์ 2-1 ในนัดชิงตั๋ว แต่ผลลัพธ์นั้นยิ่งเป็นการเติมฟืนสุมไฟ เพราะในรอบก่อนหน้า พวกเขาก็พลิกแซงชนะทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ได้ในแบบเดียวกัน บวกกับการที่ขุนพลฟ้าเหลือง อุดมไปด้วยนักเตะประสบการณ์สูง จึงเชื่อว่าใครที่ต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา คงต้องพบกับความยากลำบากไม่น้อย

ผลงาน
ยูโร 2016: รอบแบ่งกลุ่ม ตกรอบจากการเป็นอันดับที่ 4 ของกลุ่ม
ยูโร 2020 : รอบแบ่งกลุ่ม ตกรอบจากการเป็นอันดับที่ 3 ของกลุ่ม
รอบคัดเลือกยูโร 2024
ทีมชาติยูเครน จบรอบคัดเลือกในฐานะทีมอันดับ 3 ของกลุ่มซี ทำให้พวกเขาได้สิทธิแข่งขันเพลย์ออฟ ซึ่งนัดแรกพวกเขาบุกเฉือน บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 2-1 เข้าสู่นัดชิงตั๋ว พบ ทีมชาติไอซ์แลนด์ “ทัพฟ้าเหลือง” ทำสำเร็จ เปิดบ้านเอาชนะ 2-1

ผู้จัดการทีม
“เซอร์เก เรบรอฟ”

เฮดโค้ชวัย 49 กะรัต อดีตกองหน้าสโมสรทอตแนม ฮอตสเปอร์, เวสต์แฮม และ ดินาโม เคียฟ ก่อนหน้านี้ เรบรอฟ เคยรับงานเป็นผู้ช่วยโค้ชกับทีมชาติยูเครน ระหว่างปี 2010/11 ซึ่งเขารับหน้าที่ดังกล่าวต่อเนื่องกับสโมสรดินาโม เคียฟ อดีตต้นสังกัด ก่อนจะขึ้นเป็นเฮดโค้ช และนำแชมป์ลีกสูงสุดมาสู่ทีม 2 สมัยซ้อน ซึ่งจากนั้นเฮดโค้ชรายนี้ ประสบความสำเร็จท่วมท้น กับสโมสรเฟเรนซ์วารอส บนลีกสูงสุดของฮังการี และ สโมสรอัล-ไอน์ ยักษ์ใหญ่จากศึกยูเออี โปรลีก ก่อนจะรับงานคุมทีมชาติยูเครน ช่วงกลางปี 2023 ที่ผ่านมา โดยเฮดโค้ชรายนี้มักใช้ระบบ 4-3-3 สร้างเกมรุกจากทุกทิศทุกทางของสนาม ใช้ฟูลแบ๊กทั้งสองข้างในการสนับสนุนเกมรุก และ ทีเด็ดคือการใช้ประโยชน์จากทักษะของนักเตะได้ดี

นักเตะที่จับตามอง
“อาร์เตม ดอฟบิค”

ติดทีมชาติชุดใหญ่ : 25 นัด (2021-ปัจจุบัน)
สไตรเกอร์ตัวความหวัง วัย 26 ปี จากสโมสรคิโรนา บนเวทีลาลีกา สเปน มาพร้อมสถิติยอดเยี่ยม ลงเล่น 33 นัด ทำ 17 ประตู 7 แอสซิสต์ เป็นส่วนสำคัญให้ต้นสังกัดบินสูง ลุ้นลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า นอกเหนือจากความเฉียบคมในการจบสกอร์ เจ้าตัวยังเป็นกองหน้ารูปร่างสูงใหญ่ ที่สามารถควบคุมลูกฟุตบอลได้ดีเยี่ยม แข้งรายนี้ถือเป็นความหวังในการพักบอลแดนหน้า ซึ่งน่าติดตามว่าจะสร้างปัญหาให้กับแนวรับคู่แข่งได้มากเพียงใด

“โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก”

ติดทีมชาติชุดใหญ่ : 60 นัด (2015-ปัจจุบัน)
แบ๊กซ้ายกัปตันทีม วัย 27 กะรัต ผ่านประสบการณ์มากมาย ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ นอกจากจะเล่นได้ดีในตำแหน่งแบ๊กซ้าย แข้งรายนี้ยังโชว์ฟอร์มดีไม่แพ้กันในตำแหน่งกองกลาง จุดเด่นของซินเชนโก หนีไม่พ้นการสร้างสรรค์เกมรุกได้จากทุกพื้นที่ในสนาม ซึ่งเป็นทักษะที่เจ้านายเก่าอย่าง เปป กวาร์ดิโอลา สามารถดึงออกมาได้อย่างเต็มที่ ขณะที่เจ้าตัวยังค้าแข้งกับสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี จนเจ้าตัวสามารถสานต่อวิธีการเล่นดังกล่าวมาถึงปัจจุบัน นอกเหนือจากนี้ทีมฟ้าเหลืองยังคับคั่งไปด้วยนักเตะชื่อดัง อาทิ มิไคโล มูดริก, รุสลัน มาลินอฟสกี, วิคเตอร์ ซีกานคอฟ, อิลยา ซาบาร์นี และ วิตาลี มีโคเลนโก

โอกาสเข้ารอบ
ทีมชาติยูเครน ประเดิมสนามพบ ทีมชาติโรมาเนีย ซึ่งถือว่าเป็นนัดชี้ชะตาการเข้ารอบกลายๆ เพราะหากขุนพลฟ้าเหลืองคว้าชัย นอกเหนือจาก 3 แต้มสำคัญที่ได้ พวกเขาจะส่งแรงกดดันมหาศาลให้คู่แข่งตัวฉกาจ ในการลงสนามนัดต่อไป พบ ทีมชาติเบลเยียม หากเป็นไปตามสูตร ทัพฟ้าเหลืองขอเพียงแต้มเดียว จาก 2 นัดที่เหลือ ก็มีโอกาสสูงลิบลิ่ว ที่จะตบเท้าเข้าสู่รอบ 16 ทีม

โปรแกรมการแข่งขัน
วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน เวลา 20.00 น. : ทีมชาติโรมาเนีย
วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน เวลา 20.00 น. : ทีมชาติสโลวาเกีย
วันพุธที่ 26 มิถุนายน เวลา 23.00 น. : ทีมชาติเบลเยียม