เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 13 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธ์รัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอร่างแนวทางแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ โดยนายอนุทิน เปิดเผยภายหลังเข้าพบว่า นายกฯ ได้สั่งการในการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวทั้งหมด เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนรายละเอียดยังไม่ขอเปิดเผย ยังมีอีกหลายขั้นตอน โดยให้ดำเนินการให้รวดเร็วที่สุด ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ตนได้รับมอบหมาย และนายกฯ ได้ตัดรายละเอียดไปกว่าครึ่งจากไทม์ไลน์ที่กระทรวงมหาดไทยเสนอไป ส่วนหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกเหนือจากกระทรวงมหาดไทย นายกฯ รับว่าจะไปเร่งรัดต่อไป เพื่อให้การแก้ไข พ.ร.บ. ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เกิดความสำเร็จในระยะเวลาสั้นที่สุด
เมื่อถามว่า การแก้ไขกฎหมายดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า แน่นอน เราต้องทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกภาคส่วน
เมื่อถามต่อว่า กฎหมายดังกล่าวจะช่วยให้การขายอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างต้องมีประโยชน์ ทำแล้วต้องดีกว่าเดิม ไม่มีการออกกฎหมายแล้วแย่กว่าเดิม
เมื่อถามว่า มีการแก้ไขเกี่ยวกับเรื่องให้ต่างชาติซื้อที่ดินได้ด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นการแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ให้สะดวก รวดเร็ว และเศรษฐกิจดี มีเงินหมุนเวียนเยอะ ให้มีการลงทุนที่มากขึ้น โดยเริ่มที่กระทรวงมหาดไทย ส่วนที่จะเกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่นๆ นั้น นายกฯ จะรับไปเป็นเจ้าภาพ จากนั้นจะนำเข้าสภา ซึ่งเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นกฎหมายที่มีประโยชน์ต่อประชาชนและบ้านเมือง
เมื่อถามอีกว่า ที่ผ่านมาเมื่อแตะเรื่องที่ดินจะถูกมองว่าเป็นการขายชาติ นายอนุทิน กล่าวว่า “อยู่ที่เราจะจิตแข็งแค่ไหน เราไม่ได้ขายชาติแน่นอน น้ำหน้าอย่างนี้จะไปขายชาติหรือ เป็นไปไม่ได้ ผมเป็นรัฐมนตรีจะไปขายชาติได้ยังไง มีแต่ต้องทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง นายกรัฐมนตรีจะออกกฎหมายเพื่อขายชาติ อย่าว่าแต่ประเทศไทยเลย ไม่มีใครอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้”
เมื่อถามว่า มีแนวทางรับมือเสียงคัดค้านอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย ถ้ามีการคัดค้าน ดูแล้วไม่ได้เรื่อง ก็ไปตกในสภา อย่าลืมว่าที่ดินของประเทศไทย ใครจะขุดตึกไทยคู่ฟ้า ไปปลูกในต่างประเทศได้หรือไม่ ยังไงตึกไทยคู่ฟ้าก็ต้องอยู่ที่นี่วันยันค่ำ ไม่มีอะไรต้องกังวล ไม่มีใครคิดที่จะขายชาติ ขายบ้านเมือง ต่อให้คนๆ นั้นอยู่ฝ่ายไหนก็ตาม
