นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงปี 67-69 บริษัทฯ มีแผนลงทุนพัฒนาศักยภาพการให้บริการสนามบิน 2 โครงการ วงเงินลงทุนรวมประมาณ 2.3 พันล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานสมุย วงเงินลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาออกแบบรายละเอียดต่างๆ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี แล้วเสร็จภายในปี 68 เบื้องต้นจะเพิ่มจำนวนพื้นที่พักคอย (Boarding gate) ภายในอาคารผู้โดยสาร จากเดิม 7 เพิ่มเป็น 11 เกท และเพิ่มเคาน์เตอร์เช็กอิน 10 เคาน์เตอร์ รวมถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์ด้วย เมื่อปรับปรุงสนามบินสมุยแล้วเสร็จ จะช่วยรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการให้สนามบินสมุย มีผู้โดยสารขาเข้าอยู่ที่ 2 ล้านคนต่อปี และขาออก 2 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบันมีผู้โดยสารขาเข้าอยู่ที่ 1 ล้านคนต่อปี และขาออก 1 ล้านคนต่อปี

นายพุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันจะพยายามเพิ่มเที่ยวบินเข้าออกสนามบินสมุยให้มากขึ้น เต็มขีดความสามารถในการรองรับประมาณ 73 เที่ยวบินต่อวัน จากปัจจุบัน 50 เที่ยวบินต่อวัน โดยขณะนี้ สนามบินสมุย มี 2 สายการบินให้บริการ คือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และสายการบินสกู๊ต (วันละ 1 เที่ยวบิน และเตรียมเพิ่มเป็นวันละ 2 เที่ยวบินในเร็วๆ นี้) ล่าสุดมีสายการบินของประเทศทิเบต สนใจเปิดเที่ยวบินมายังสนามบินสมุยด้วย อยู่ระหว่างการขอยื่นเรื่องเปิดทำการบินต่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)

นายพุฒิพงศ์ กล่าวอีกว่า และ 2.โครงการพัฒนาท่าอากาศยานตราด วงเงินลงทุนประมาณ 700-800 ล้านบาท อยู่ระหว่างการศึกษาโครงการฯ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างต้นปี 68 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 1-2 ปี แล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการกลางปี 69 โดยโครงการดังกล่าว จะใช้พื้นที่ประมาณ 200-300 ไร่ มีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ อยู่ห่างจากอาคารผู้โดยสารหลังที่ใช้งานปัจจุบันเล็กน้อย สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 200 กว่าคนต่อเที่ยวบิน จากปัจจุบันรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 100 คนต่อเที่ยวบิน ส่วนอาคารผู้โดยสารแห่งเดิม มีแผนจะปรับปรุงเป็นอาคารคลังสินค้า (Cargo)

นอกจากนี้จะดำเนินการขยายระยะทางวิ่ง (Runway) จาก 1,800 เมตร เป็น 2,000-2,100 เมตร เพื่อให้สามารถรองรับเครื่องบินไอพ่นขนาดเล็ก รวมถึงเครื่องบินโบอิ้ง 737, แอร์บัส เอ320 และแอร์บัส เอ319 จากปัจจุบันรองรับได้แค่เครื่องบิน ATR72-600 เท่านั้น อย่างไรก็ตามการพัฒนาสนามบินตราดนั้น เนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสในการเพิ่มศักยภาพของสนามบินตราดให้สามารถรองรับผู้โดยสารในเที่ยวบินที่เดินทางมาจากต่างประเทศได้ในอนาคต โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ติดต่อ และสนใจที่จะเดินทางมายังสนามบินตราด พร้อมทั้งจะพัฒนาให้เป็นสนามบินนานาชาติ (International Airport) และคาดหวังจะพัฒนาให้คล้ายกับสนามบินสมุยด้วย

นายพุฒิพงศ์ ยังกล่าวถึงแผนการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังปี 67 ว่า จากข้อมูลของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ในเดือน มิ.ย. 67 คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตของการเดินทางทางอากาศในปี 67 ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเติบโตสูงที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นที่ 17.2% และในปี 67 อุตสาหกรรมการบินจะสามารถกลับมาสู่ระดับที่สูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ได้ แสดงให้เห็นถึงความต้องการเดินทางว่ามีแนวโน้มเติบโตได้ดี บริษัทฯ จึงได้วางกลยุทธ์การดำเนินงานในหลายมิติ เพื่อตอบสนองความต้องการในการเดินทางในช่วงที่จะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว

ทั้งนี้จากยอดการสำรองที่นั่งบัตรโดยสารล่วงหน้า (Advance Booking) ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สในทุกเส้นทาง พบว่า ยอดจองล่วงหน้าช่วง มิ.ย.-ธ.ค. 67 มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปี 66 ส่วนไตรมาส 2 มีการเติบโตขึ้น 3% และไตรมาส 3 ซึ่งถึงเป็นช่วงพีคซีซั่นของเส้นทางสมุย มีอัตราเติบโตขึ้น 11% โดยเส้นทางสมุยยังเป็นอันดับ 1 มีสัดส่วน 65% ขณะที่ไตรมาส 4/67 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางช่วงวันหยุดยาวสิ้นปีนั้น มียอดการจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 35%

นายพุฒิพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า เบื้องต้นยังคงเป้าหมายเดิมไว้ในปี 67 จะมีการขนส่งผู้โดยสารประมาณ 4.5 ล้านคน มี 48,000 เที่ยวบิน มีเป้ารายได้ผู้โดยสารรวม 1.78 หมื่นล้านบาท ราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวบินประมาณ 3,900 บาทต่อที่นั่ง ปัจจุบันสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มีเครื่องบินรวม 24 ลำ แบ่งเป็น เครื่องบินแอร์บัส เอ320 จำนวน 3 ลำ, เครื่องบินแอร์บัส เอ319 จำนวน 11 ลำ และเครื่องบิน ATR72-600 จำนวน 10 ลำ โดยปี 67 มีแผนปลดระวางเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 จำนวน 1 ลำ และจะจัดหาเครื่องบินแอร์บัส เอ319 เพิ่ม 2 ลำ เพื่อเป็นการรองรับอุปสงค์การเดินทางที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น

ขณะเดียวกันในปีนี้ บริษัทฯ จะจัดทำเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (RFP) และออกประกาศเชิญชวนผู้ผลิตเครื่องบินเข้าร่วมเสนอราคาเครื่องบินที่จะนำเข้าเพิ่มฝูงบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สในอนาคต โดยเบื้องต้นมีความต้องการประมาณไม่ต่ำกว่า 20 ลำ คาดว่าจะทยอยรับมอบเครื่องบินในจำนวนดังกล่าวภายใน 2-3 ปีนี้ ซึ่งจะทำให้ในช่วง 3-5 ปีนี้ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มีเครื่องบินรวมประมาณ 30 ลำ.