ถือว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่มีทัศนคติน่าชื่นชมอย่างมาก สำหรับ เขื่อน ภัทรดนัย นักร้องชื่อดังอดีตสมาชิกวง K-otic ที่ตอนนี้ได้ผันตัวมาเป็นผู้มีอิทธิพลทางโซเชียลที่หลายคนต่างชื่นชมและยอมรับ ล่าสุด เขื่อน ภัทรดนัย ได้ออกมาพูดคุยเรื่องราวชีวิตของตัวเองในรายการของ วู้ดดี้ วุฒิธร ผ่านทาง Youtube ช่อง WOODY โดยเปิดใจว่าถึงเรื่องราวที่รู้สึกยากลำบากในการเป็นตัวเอง และการทำงาน รวมถึงเรื่องอื่นๆว่า

“มันมีวันหนึ่งที่แบบเขื่อนฟังเสียงคนรอบนอกเยอะมากๆ อย่างสมมุติคนไม่ชอบเขื่อนเราก็เปลี่ยนใช่ไหม คนไม่ชอบอะไรก็เปลี่ยนๆ จนวันหนึ่งตื่นขึ้นมาแล้วกลายเป็นว่าไม่ชอบตัวเอง ซึ่งตอนแรกเราไม่ได้ยินบริบทนี้หรือเล่าเรื่องนี้เลย ก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ แล้วก็เริ่มรู้สึกว่าทำไมเราเติมเต็มตัวเองไม่ได้สักที ต้องคอยให้ใครมาบอกว่าเราดีหรือเราไม่ดี ก็เลยมานั่งคิดแบบลองเขียนบันทึกเปลี่ยนแปลงตัวเอง มารู้ตัวอีกทีก็คือเราไม่ชอบตัวเองแล้ว โอเคไม่ชอบตัวเองไม่ใช่เรื่องผิด เพราะไม่ใช่ทุกคนอยู่ดีๆจะรักตัวเอง ก็มาถามก่อนว่าไม่ชอบอะไร ไม่ชอบตรงไหน มันเกิดอะไรขึ้น เราแก้ไขปรับเปลี่ยนได้ไหม ก็ค่อยๆ ทำความรู้จักกับตัวเองให้มากขึ้น ทุกวันนี้ก็ค่อนข้างมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองทำ
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือ เรื่องเวลาครับ เขื่อนโฟกัสงานกับคนอื่นเยอะ หลายๆครั้งเราเอ็นจอยนะมันเติมเต็ม แต่พอเรากลับมาโฟกัสตัวเอง ลืมไปว่าเวลาส่วนตัวเราอาจจะเหลือน้อย เป็นเรื่องนี้มากกว่า ถ้าเรื่องอื่นก็จะทำใจได้ แต่ที่น่าสนใจคือความสัมพันธ์คนกับมนุษย์ มนุษย์กับเวลามันไปด้วยกันอยู่แล้วครับ เพราะทุกคนมีเวลาจำกัด จะทำอย่างไรให้มันเวิร์คกับทุกคนให้มากที่สุด”

“สังคมในวงการหลังๆ เขื่อนเลือกที่จะไม่เกลียดคนน่ะ เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่ไม่เกลียด เพราะว่าแบบฉันเป็นคนดีอะไรอย่างนี้ ไม่ใช่นะ ไม่เกลียดคนเพราะว่าวันหนึ่งเราก็เรียนรู้จากการเกลียด โดยการโดนเกลียด รู้ตัวอีกทีก็คือเกลียดคนอื่นกลับ แบบเหมือน Autopilot เธอไม่ชอบฉัน ฉันก็ไม่ชอบเธอ ก็เป็นเหมือนกลไกป้องกันตัวครับ พอมารู้ก็คือรู้สึกว่าการเกลียดคนมันเหนื่อย พอเราเกลียดคนใช่ไหม คนที่เราไม่ชอบเดินมา เราก็ใจเต้นไม่ดีแล้ว พอคนที่เราไม่ชอบ ไม่ถูกชะตาขึ้นมาในฟีดโซเชียลเรา อุ๊ย! ทำไมชีวิตเขาได้ดีก็รู้สึกไม่ดีกระวนกระวาย ทั้งๆ ที่เราไม่รู้ด้วยว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไร เลยรู้สึกว่าถ้าเกิดเรามีตัวเลือกแบบไม่ยุ่งละกัน ไม่เกลียดละกันเพราะมันเหนื่อย ก็เลยกลายเป็นว่า By Default เรามาโฟกัสที่แบบ โอเค ถ้าเราทำให้ดีที่สุดได้ เราทำอะไรให้คนอื่นหรือกับตัวเองได้ มันเลยแบบอยู่สบาย ใครจะมีปัญหากับเรา ใครจะมีเรื่องกับเรา ใครมาชวนตี เราเฉย ๆ เพราะเรารู้สึกว่าไม่อยากยุ่งด้วยนะ เลยเหลือพลังงานเยอะขึ้นเลย”

ขอบคุณภาพประกอบจาก : koendanai