ทัพผีดิบ “โรมาเนีย” งัดฟอร์มแข็ง กรุยทางสู่เมืองเบียร์ ในฐานะแชมป์กลุ่ม I ด้วยสถิติไม่แพ้ใคร แม้จะต้องอยู่ร่วมกลุ่มกับทีมแกร่งอย่างสวิตเซอร์แลนด์ ทีเด็ดของพวกเขาคือเกมรับที่แข็งแกร่ง ซึ่งครั้งนี้พวกเขากลับมาสู่เวทีชิงแชมป์ ยุโรปอีกครั้ง หลังจากต้องผิดหวังในรอบคัดเลือกยูโร 2020 ที่ผ่านมา

ผลงาน
ยูโร 2016 : รอบแบ่งกลุ่ม ตกรอบจากการเป็นอันดับที่ 4 ของกลุ่ม
รอบคัดเลือกยูโร 2024 ทีมผีดิบทำผลงานยอดเยี่ยม ชนะ 6 เสมอ 4 ไม่แพ้ใคร พวกเขาเสียเพียง 5 ประตู จากการลงเล่น 10 นัด และ มีถึง 6 นัด ที่นายด่านของพวกเขาเก็บคลีนชีตได้

ผู้จัดการทีม
“เอดเวิร์ด ยอร์ดาเนสคู”

กุนซือเลือดบูคาเรสต์ วัย 45 ปี ผู้ผ่านประสบการณ์การค้าแข้งและคุมทีมสโมสรใน “ซูเปอร์ ลีกา” ลีกสูงสุดของโรมาเนียมาอย่างโชกโชน โดยเทรนเนอร์รายนี้เริ่มงานคุมแข้งผีดิบในปี 2022 โดยผลงานที่โดดเด่นของเขา หนีไม่พ้นการพาทีมชาติโรมาเนียผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายศึกยูโรหนนี้อย่างสวยหรู แม้กุนซือรายนี้จะเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นบ่อยครั้ง แต่ขุนพลผีดิบมักได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการเสมอ เช่น นัดที่เปิดบ้านพบทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีเกมรุกยอดเยี่ยม หมากของเทรนเนอร์รายนี้ คือ ใช้ระบบการเล่น 4-1-4-1 แพ็ดแดนกลางให้แน่น สร้างความอึดอัดให้คู่แข่ง ในที่สุดพวกเขาฉวยโอกาสขึ้นนำ และคว้าชัยชนะได้สำเร็จ น่าสนใจว่าเมื่อศึกยูโร 2024 เปิดฉากขึ้น กุนซือรายนี้จะวางแผนการเล่นอย่างไร

นักเตะที่จับตามอง
“ราดู ดรากูซิน”

ติดทีมชาติชุดใหญ่ : 15 นัด (2022-ปัจจุบัน) เซ็นเตอร์แบ๊กวัย 22 ปี จากสโมสรทอตแนม ฮอตสเปอร์ บนเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นปราการหลังคนสำคัญของทัพผีดิบในรอบคัดเลือกยูโรหนนี้ โดยครองสถิติการลงเล่นตัวจริงทุกนัด ดรากูซิน ถือเป็นหมากคนสำคัญของเทรนเนอร์วัย 45 ปี เพราะเจ้าตัวมีความเฉียบขาดในการป้องกันพื้นที่สุดท้าย ซึ่งมาพร้อมความมั่นใจในการเล่นลูกกลางอากาศ

“นิโคเล สแตนซิอู
ติดทีมชาติชุดใหญ่ : 68 นัด (2016-ปัจจุบัน)

กองกลางกัปตันทีมวัย 30 ปี จากสโมสรอัล ดาฮัม ทีมในศึกซาอุดิ โปรเฟสชั่นเนล ลีก เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นหลักที่ลงสนามครบทุกนัดในรอบคัดเลือก จุดเด่นของมิดฟิลด์ตัวรุกรายนี้ คือ ความคล่องแคล่ว พาบอลไปกับตัวดีและเชี่ยวชาญในการทำประตูจากนอกกรอบเขตโทษ ขุนพลที่น่าจับตามองของทัพผีดิบ ยังมี เดนิส อลิเบช, วาเลนติน มิไฮลา, ยานิส ฮาจี และ อันเดรีย บูร์กา

โอกาสเข้ารอบ
ทีมชาติโรมาเนีย ประเดิมนัดแรกทำศึกชี้ชะตา กับทีมชาติยูเครน นั่นเพราะทีมฟ้าเหลือง เป็นคู่แข่งโดยตรงในการแย่งเข้ารอบ การแบ่งแต้มอาจไม่เป็นผลดีนัก เพราะจะทำให้โอกาสเข้ารอบไม่แน่นอน และเพิ่มงานหนักให้ตนเอง ต้องหวังมีแต้มในนัดปะทะทีมชาติเบลเยียม ซึ่งเป็นทีมเต็งของกลุ่ม ดังนั้นการตุน 3 แต้มไว้ในนัดแรก จะทำให้ทัพผีดิบได้เปรียบทีมคู่แข่งมหาศาล

โปรแกรมการแข่งขัน
วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน เวลา 20.00 น. : ทีมชาติยูเครน
วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน เวลา 03.00 น. : ทีมชาติเบลเยียม
วันพุธที่ 26 มิถุนายน เวลา 23.00 น. : ทีมชาติสโลวาเกีย