สื่อเวียดนาม docnhanh เปิดเผยเรื่องราวอุทาหรณ์เตือนใจเกี่ยวกับสุขภาพ ในเคสที่คุณแม่ชาวจีนวัย 37 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ที่มณฑลหูหนาน มีอาการไอเรื้อรัง โดยเธอจะไออย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลาราว 2 วัน ก่อนหายเป็นปกติ แล้วก็กลับมาไอในอีกไม่กี่วันต่อมา เวลาไอจะรู้สึกเจ็บที่หน้าอก เป็น ๆ หาย ๆ แบบนี้มาติดต่อกันนานถึง 2 ปี โดยที่เธอไม่ได้ไปหาหมอ เพราะเธอเป็นคุณแม่ลูก 2 จึงต้องคอยดูแลลูก ๆ และเธอไม่อยากไปโรงพยาบาล เนื่องจากเธอคิดว่าอาจไปติดเชื้อโรคที่โรงพยาบาล แล้วนำมาติดลูก ๆ ที่บ้านได้

แต่แล้วเธอก็ตัดสินใจไปหาหมอ เพราะรำคาญที่ไอไม่หายสักที เมื่อได้รับการตรวจ CT scan ปอดโดยละเอียด แพทย์พบว่าเธอป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 ซึ่งรุนแรงถึงขั้นไม่สามารถผ่าตัดรักษาได้

คุณแม่กล่าวว่า เธอต้องคอยดูแลลูก 2 คน ขณะที่สามีของเธอต้องไปทำงานอยู่ที่มณฑลอื่น เธอไม่เข้าใจว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งปอดได้อย่างไร เพราะเธอไม่สูบบุหรี่

แพทย์อธิบายว่า มีผู้หญิงจำนวนหนึ่งที่ป่วยเป็นมะเร็งปอด ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ แต่ป่วยเพราะการสูดดมควันและไอน้ำมันจากการทำอาหารในครัว ทำให้เธอตกใจมาก เพราะเธอเป็นคุณแม่ลูก 2 จึงต้องคอยทำอาหารเพื่อดูแลลูก ๆ และทำอาหารให้สามีเวลาที่เขาเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน แม้ที่บ้านของเธอจะมีเครื่องดูดควัน แต่เธอกลัวเปลืองไฟ จึงไม่ค่อยเปิดเครื่องเวลาทำอาหาร ทำให้เธอต้องสูดควันในการทำอาหารเข้าไปทุกวัน วันละ 3 ครั้ง บ่อยครั้งหลังเธอทำอาหารเสร็จจะรู้สึกมึนจนไม่อยากทานอาหารเลย ซึ่งแพทย์อธิบายต่อว่า เป็นอาการเมาควันน้ำมันเวลาปรุงอาหาร หลังจากสูดควันในครัวมากเกินไป ทำให้เบื่ออาหารและรู้สึกไม่สบาย

เพราะฉะนั้น ใครที่ต้องทำอาหารเป็นประจำ ให้เปิดเครื่องดูดควัน ถ้าไม่มีก็ควรใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน หรือเปิดหน้าต่างห้องครัวเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก และไม่ควรใช้น้ำมันซ้ำ

ที่มาและภาพ : docnhanh, Stadnik / Pixabay