เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 67 ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ สว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยผลการลงคะแนนเลือก สว. ระดับอำเภอในรอบแรก ก่อนการเลือกไขว้ เพราะขณะนี้มีผู้สมัคร สว. หลายราย เข้าไปขอตรวจสอบจาก กกต.อำเภอ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธให้ดูผลคะแนน และอ้างว่าส่งให้ กกต.ส่วนกลางแล้ว อย่างไรก็ดีมีการตั้งข้อสังเกตว่า มีผู้สมัคร สว. บางรายที่ได้ศูนย์คะแนนนั้น อาจเป็นกลุ่มคนที่สมัครเข้ามาโหวต สว. โดยมีการว่าจ้างให้ลงสมัคร อย่างไรก็ดี ผลการลงคะแนนนั้นตนเชื่อว่า กกต.อำเภอต้องมีสำเนาไว้ก่อนส่งให้ กกต.ส่วนกลางหรือไม่ แต่เมื่อปฏิเสธการให้ดูผลการลงคะแนน ถือว่าเป็นการปกปิดข้อมูลและไม่ต้องการให้ประชาชนตรวจสอบหรือไม่

“กมธ. ได้รับข้อมูลเป็นจำนวนมากต่อการเลือก สว.ระดับอำเภอ ที่พบว่ามีการขนคน เช่น ในจังหวัดทางภาคตะวันออก ที่มีเจ้าของรีสอร์ทลงสมัคร สว. ได้เกณฑ์พนักงาน ลูกจ้างในรีสอร์ททั้งหมด ให้ลงสมัคร รวมถึงการขนคนในพื้นที่ภาคอีสาน ที่พบว่านายสมบูรณ์ ทองบุราณ ผู้สมัคร สว.กลุ่มสื่อ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ได้ไปแจ้งความไว้ กรณีที่พบข้อพิรุธเรื่องการขนคนมาลงคะแนน นอกจากนั้นยังพบว่าในรอบไขว้ พบมีคนที่ได้รับคะแนนเลือกสูงผิดปกติ ซึ่งสันนิษฐานได้ว่ามีกระบวนการจัดฮั้ว เพื่อให้เลือกคนที่ต้องการได้รับเลือกเป็นการเฉพาะ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความโปร่งใส สุจริต เที่ยงธรรม กกต. ต้องเปิดเผยผลคะแนนเลือกทุกอำเภอให้ประชาชนทราบทันที” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ตนทราบว่า มีผู้สมัคร สว. จำนวนมากได้ร้องเรียนการเลือกจำนวนมาก ดังนั้น กกต. ควรทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างจริงจัง โดยใช้ผลคะแนนของผู้ที่ได้ศูนย์คะแนนเป็นตัวตั้ง และสอบย้อนไปว่า ใครใช้ ใครจ้างวาน ราคาเท่าไร และกันไว้เป็นพยาน อย่าปล่อยให้หลุดไปเลือกระดับจังหวัด เพราะจะเกิดความเสียหาย

นายสมชาย กล่าวต่อว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตถึงระเบียบของ กกต. ว่าด้วยการเลือก สว. ซึ่งแก้ไขฉบับล่าสุด ลงวันที่ 7 มิ.ย. 67 ในข้อ 5 ซึ่งเพิ่มรายละเอียด ข้อ 154/1 ว่าด้วยการเลื่อนบุคคลในบัญชีสำรองแทนผู้รับเลือกที่ได้คะแนน 1-10 แต่ไม่สามารถเป็น สว. ได้ เพราะขาดคุณสมบัติ มีลักษณะต้องห้าม ถูกลบชื่อ หรือตาย หรือเพราะเหตุอื่นนั้น เพราะ กกต. กังวลในเรื่องของการทุจริตหรือไม่

“หาก กกต. เขียนระเบียบเพื่อให้อำนาจตนเองเลื่อนบัญชีได้ แสดงว่า กกต.จะไม่สนใจตรวจทุจริตตั้งแต่ต้นหรือไม่ อีกทั้ง กกต. ควรเป็นหลัก ไม่ใช่ประกาศอะไรแล้ว กลับมาแก้ไขเพื่อปิดช่องว่างเป็นห้วงๆ ทั้งที่ควรทำให้สุจริตตั้งแต่ต้น ในฐานะที่ผมติดตามเรื่องนี้ กรณีที่ กกต. แก้ระเบียบไปมานั้น เพราะเห็นช่องว่างการทุจริตใช่หรือไม่ ดังนั้นไม่ต้องไปไกลถึงการประกาศผลขอให้ตรวจสอบเรื่องศูนย์คะแนนในระดับอำเภอ เพราะมีคนที่สมัครแต่ไม่เลือกตัวเองเพราะเหตุใด มีการว่าจ้างหรือไม่ เพราะมีคนที่อยู่ในอาชีพซึ่งมีรายได้ไม่เพียงพอเลี้ยงตัวเอง กลับสละเงิน 2,500 บาท เพื่อไปสมัคร ผมอยากให้ กกต. สอบผู้ต้องสงสัยเหล่านั้น หากไม่ทำถือว่า กกต. การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” นายสมชาย กล่าว

เมื่อถามว่า มองว่า กกต. ควรเลื่อนระดับจังหวัดเพื่อตรวจข้อเท็จจริงประเด็นศูนย์คะแนนให้เรียบร้อยก่อนหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า แล้วแต่ กกต. เพราะ กกต. มีอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบ หากเดินหน้าแล้วผิดกฎหมาย กกต. ต้องรับผิดชอบ ตนไม่ขวางอะไร มีหน้าที่เหมือนประชาชนที่ตรวจสอบเท่านั้น และมองว่า กระบวนการตรวจสอบของ กกต. นั้นน้อยไป

“ผมไม่ต้องการให้การเลือก สว. ครั้งนี้เป็นโมฆะ แต่หากเดินหน้าไประวังจะเป็นโมฆะ ทั้งนี้ผมเบื่อที่มีแต่คนพูดว่า สิ่งที่ผมทำเพราะต้องการอยู่ยาว แต่ข้อเท็จจริงคือ ผมต้องการ สว. ที่ดีมาทำหน้าที่แทน” นายสมชาย กล่าว.