สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ว่าประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส กล่าวถึงการตัดสินใจยุบสภาผู้แทนราษฎร จัดการเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนดสำหรับฝ่ายนิติบัญญัติ รอบแรก 577 ที่นั่ง ในวันที่ 30 มิ.ย. และรอบสองในวันที่ 7 ก.ค. ว่าเขาเชื่อมั่นในศักยภาพของชาวฝรั่งเศส “ที่จะตัดสินใจอย่างถูกต้องเพื่อคนรุ่นหลัง”

FRANCE 24 English


สำหรับผลการเลือกตั้งสมาชิกสภายุโรป ในส่วนของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการเลือกตั้ง 81 จาก 720 ที่นั่ง ปรากฏว่า พรรคแนวร่วมชาติ (อาร์เอ็น) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัดของนางมารีน เลอ แปน และนายจอร์แดน บาร์เดลลา ได้รับการเลือกตั้งมากที่สุด 30 ที่นั่ง ส่วนพรรคเรอแนซ็องส์ของมาครง ได้รับการเลือกตั้ง 13 ที่นั่ง


ทั้งนี้ มาครงประณามฝ่ายขวาจัด “นำความยากจนกลับมาสู่ยุโรป” และ “บ่อนทำลายภาพลักษณ์” ของประเทศ ดังนั้น ในฐานะผู้นำฝรั่งเศส เขาไม่อาจเพิกเฉยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ และขอให้ประชาชนตัดสินใจ ผ่านการเลือกตั้งครั้งใหม่ภายในประเทศ

นางมารีน เลอ แปน และนายจอร์แดน บาร์เดลลา


ขณะที่นายจอร์แดน บาร์เดลลา ผู้นำพรรคอาร์เอ็น ในการเลือกตั้งสภายุโรปครั้งนี้ กล่าวถึงผลคะแนนที่ออกมาว่า “บ่งชี้ความปรารถนาของชาวฝรั่งเศสที่ต้องการเปลี่ยนแปลง” และหลังจากนั้นไม่นาน ที่ประชุมใหญ่พรรคอาร์เอ็น มีมติเสนอชื่อบาร์เดลลา วัย 28 ปี ให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี สู้กับนายกาเบรียล อัตตาล นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน จากพรรคเรอแนซ็องส์ วัย 35 ปี


ด้านนักวิเคราะห์มองว่า การตัดสินใจของมาครงในการยุบสภาครั้งนี้ “เป็นเดิมพันที่มีความเสี่ยงสูง” ย้อนกลับไปเมื่อปี 2540 ประธานาธิบดีฌัก ชีรัก ผู้นำฝรั่งเศสในเวลานั้น ยุบสภาแต่กลับกลายเป็นว่า พันธมิตรพรรคฝ่ายซ้ายชนะการเลือกตั้ง เหนือรัฐบาลที่เป็นฝ่ายอนุรักษนิยม


ส่วนบทบรรณาธิการในหนังสือพิมพ์ “เลอ มองด์” กล่าวว่า “มาครงกำลังเล่นกับไฟ ท้ายที่สุดแล้วเปลวไฟนั้นจะย้อนกลับไปเผาตัวเอง และทำให้ฝรั่งเศสต้องมอดไหม้ตามไปด้วย”


อนึ่ง การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสครั้งต่อไป จะเกิดขึ้นในปี 2570 ซึ่งมาครงไม่สามารถลงสมัครได้อีก เนื่องจากดำรงตำแหน่งครบสองสมัยติดต่อกันแล้ว ทว่า เลอ แปน ยังคงลงสมัครได้ แต่พรรครัฐบาลยังไม่มีตัวแทนลงสมัคร แม้มีการคาดการณ์ว่า จะเป็นอัตตาลก็ตาม.

เครดิตภาพ : AFP