เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวการจัดงาน “JOB EXPO THAILAND 2024 มหกรรมหางานสร้างรายได้ที่สนุกที่สุดของประเทศไทย” ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28-30 มิ.ย. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 6–7 โดยนายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้มากำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ซึ่งตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่ตนมาทำงาน ก็ได้ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานในสังกัด ซึ่งได้รับข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะจากกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ที่มีความกังวลในเรื่องการมีงานทำหลังเรียนจบ หลายคนไม่กล้า หรือหมดหวังในการได้รับโอกาส ตนจึงขอให้การจัดงาน Job Expo เพื่อเปิดโอกาสให้คนหางานได้มาพบปะกัน ในปีนี้มีการจัดงานที่สร้างแรงดึงดูดให้คนมาร่วมงานมากขึ้น มีกิจกรรมสัมภาษณ์และสมัครงาน Job Matching ที่กรมการจัดหางาน ได้ประสานกับเครือข่ายภาคธุรกิจ รับสมัครงานในประเทศมากกว่า 500,000 อัตรา และต่างประเทศอีกกว่า 100,000 อัตรา ทั้งนี้ มีการคาดว่าจะมีผู้เข้ามาร่วมงานไม่ต่ำกว่า 80,000 คน เชื่อว่าจะมีการจับคู่งานไม่ต่ำกว่า 500,000 อัตรา นอกจากนั้นยังมีตำแหน่งงานสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการด้วย นอกจากนี้ยังมีการจัดให้ความรู้ความเข้าใจในการประกอบอาชีพ รวมถึงการสร้างโอกาสให้ทุกคนได้ทดลองเล่นอาชีพ

ด้าน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญในการจัดงานครั้งนี้คือมีจำนวนผู้มีงานทำมากที่สุด ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ที่มีการเปิดตลาดแรงงานใหม่ เช่น อิตาลี ที่ต้องการแรงงานไทยไปทำงานภาคเกษตรหลักหมื่นอัตรา นอกจากนี้ยังมีอิสราเอล ที่ต้องการแรงงานภายในภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 อัตรา ก่อสร้าง 20,000 อัตรา และการผลิต 10,000 อัตรา  

ขณะที่ นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า งาน JOB EXPO THAILAND ได้เชิญผู้ประกอบการชั้นนำของประเทศไทย 222 ราย เข้าร่วมงาน พร้อมรวบรวมตำแหน่งงานทั่วประเทศกว่า 500,000 อัตรา ไว้รองรับผู้สมัครงานภายในงาน ส่วนการไปทำงานต่างประเทศก็ได้จัดเตรียมพื้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานต่างประเทศ รวบรวมตำแหน่งงาน 100,000 อัตรา พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถแจ้งความประสงค์ไปทำงานต่างประเทศได้ ทั้งนี้สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่แอปพลิเคชัน “ไทยมีงานทำ” และ “คนทำงาน”

สำหรับกลุ่มเปราะบางซึ่งเป็นหนึ่งกลุ่มเป้าหมายที่กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญก็ได้จัดพื้นที่สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการเพื่อแจ้งความประสงค์ในการทำงาน และค้นหาตำแหน่งงานที่เหมาะสม รวมถึงกลุ่มอาชีพอิสระซึ่งสามารถทดลองฝึกทักษะ กิจกรรมเวิร์กช็อปกว่า 30 อาชีพมาไว้ภายในงาน รวมถึงสามารถพบผู้ประกอบการแฟรนไชส์ชั้นนำ 20 ราย และกลุ่มประกอบอาชีพรับงานไปทำที่บ้าน 12 กลุ่ม นอกจากนี้ยังเชิญสถานศึกษาของประเทศไทย 10 แห่ง ร่วมแนะแนวเส้นทางการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพ เป็นต้น.