“ตาหมากรุก” โครเอเชีย” อีกหนึ่งทีมจอมเก๋า ที่ผ่านประสบการณ์โชกโชนในเวทีลูกหนังโลก และเคยทะลุถึงนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย มาแล้ว แม้ว่าจะต้องอกหักพ่ายให้กับทีมชาติฝรั่งเศส 2-4 อย่างน่าเสียดาย ก็ตาม
จากวันนั้นถึงวันนี้ เวลาล่วงเลยมากว่า 6 ปี แต่ขุมกำลังของทีมตาหมากรุก ก็ยังน่ากลัว และนำโดยกลุ่มผู้เล่นเดิมที่มากประสบการณ์หลายคน
ผสมผสานกับการก้าวขึ้นมาของกลุ่มดาวรุ่งฟอร์มเด่นหลายคน ที่แม้อายุไม่เยอะ แต่ประสบการณ์เยอะทั้งในระดับทีมชาติ และสโมสร
โครเอเชีย นี่จึงเป็นอีกทีมที่น่าสนใจ และบอกได้เลยว่าใครก็ประมาทไม่ได้
ผลงาน
ยูโร 2020: รอบ 16 ทีมสุดท้าย แพ้ ทีมชาติสเปน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-5 (หลังเสมอในเวลา 3-3)
ฟุตบอลโลก 2022 : รอบรองชนะเลิศ แพ้ ทีมชาติอาร์เจนตินา 0-3
คว้าอันดับที่ 3 หลังจาก ชนะ ทีมชาติโมร็อกโก 2-1
รอบคัดเลือกยูโร 2024
ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 2 ในรอบคัดเลือก ส่งให้ทีมชาติโครเอเชีย ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ในฐานะรองแชมป์ กลุ่ม D
ทีเด็ดของพวกเขาคือระบบการเล่นที่รัดกุม เหนียวแน่น เสียเพียง 4 ประตู จากการลงเล่น 8 นัด
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/GettyImages-2156305759.jpg)
ผู้จัดการทีม
“สลัตโก ดาลิช” กุนซือชาวโครเอเชียวัย 57 ปี ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวร่วมกับขุนพลตาหมากรุกมาอย่างยาวนานกว่า 7 ปี
เขาฝากผลงานระดับเทพไว้ให้แฟนๆ โครแอตตราตึงใจ ในปี 2018 ที่พาทีมชาติโครเอเชีย บินสูงถึงการเป็น “รองแชมป์โลก” ต่อด้วยการเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในศึกยูโร 2020
จากผลงานดังกล่าว ทำให้ทีมชาติโครเอเชียขึ้นแท่นทีมชั้นนำของยุโรปในช่วงทศวรรษหลังอย่างเต็มตัว และปัจจุบัน ดาลิช พาทีมรั้งอันดับ 10 บนฟีฟ่าแรงกิ้งแล้ว
ระบบการเล่นหลักของทีมตาหมากรุก คือ 4-3-3 เน้นคุมพื้นที่ในแดนกลาง และถ้าแนวรุกไม่สามารถทำประตูได้ พวกเขาก็จะไม่ยอมเสียประตูเช่นกัน
กุนซือโครแอตสร้างแดนกลางที่แข็งแกร่ง โดยมี ลูกา โมดริช กัปตันทีมวัยเก๋า เป็นผู้นำ ขนาบข้างด้วย มาเตโอ โควาซิซ และ มาเซโล โบรโซวิซ 2 ผึ้งงานที่เล่นร่วมกันมานาน และเข้าขารู้ใจกันไปหมด
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/GettyImages-2156305401.jpg)
นักเตะที่น่าจับตามอง
ลูกา โมดริช
ติดทีมชาติชุดใหญ่ : 174 นัด (2005-ปัจจุบัน)
กองกลางกัปตันทีมระดับตำนานทีมชาติโครเอเชีย, ทอตแนม ฮอตสเปอร์ และรีล มาดริด เป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลก
เขามีการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยม และสร้างสรรค์เกมได้ด้วย 2 เท้า มันมาพร้อมทักษะที่เหนือชั้นในการควบคุมน้ำหนัก และทิศทางของลูกบอล ที่แม่นราวจับวาง
การันตีด้วยการได้รับรางวัลเกียรติยศแห่งปีอย่าง “บัลลงดอร์” ในปี 2018
แม้อายุจะโรยราลงไป แต่มิดฟิลด์วัย 38 กะรัต ก็ยังคงยืนระยะด้วยมาตรฐานการเล่นที่ดีสม่ำเสมอ อาจจะสลับเป็ตัวจริงหรือสำรองบ้าง แต่เขาก็ยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ โครเอเชีย อยู่เสมอ
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/GettyImages-2156148216.jpg)
ยอสโก กวาร์ดิโอล
ติดทีมชาติชุดใหญ่ : 29 นัด (2021-ปัจจุบัน)
กองหลังดาวรุ่งวัย 22 ปี จากสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี แจ้งเกิดจากการลงสนามเป็นผู้เล่นหลักให้กับทัพตาหมากรุก ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งขณะนั้น กวาร์ดิโอล ยังอยู่กับต้นสังกัดเก่าอย่างแอร์เบ ไลป์ซิก
เขาเป็นเซ็นเตอร์แบ๊กที่น่าจับตามองที่สุดในทัวร์นาเมนต์นั้น จุดเด่นของกองหลังถนัดซ้ายรายนี้ คือ ร่างกายสูงใหญ่ แข็งแกร่ง มีความเร็ว มาพร้อมกับเทคนิกการเล่นบอลที่ดี
สิ่งที่เพิ่มเติมสำหรับเจ้าตัวในปัจจุบัน คือสามารถลงเล่นในตำแหน่งแบ๊กซ้ายได้ และช่วงหลังกับแมนฯ ซิตี ยังยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ
ทัพตาหมากรุกยังคงอุดมไปด้วยนักเตะมากประสบการณ์ อย่าง มาเตโอ โควาซิซ, มาร์เซโล โบรโซวิซ, โดมากอย วิดา, มาริโอ ปาซาริซ รวมไปถึง อังเดร ครามาริซ ที่พร้อมลงประคองรุ่นน้องในทีม
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/GettyImages-2156783940.jpg)
โอกาสเข้ารอบ
ถึงแม้ทัวร์นาเมนต์นี้ ทัพตาหมากรุกจะต้องออกสตาร์ตใน “กรุ๊ป ออฟ เดธ” ร่วมกับ สเปน, อิตาลี, แอลเบเนีย แต่เชื่อว่าประสบการณ์ของพวกเขามากเพียงพอ และไม่เป็นสองรองใคร ด้วยการใช้กลุ่มผู้เล่นที่มีศักยภาพและร่วมเล่นด้วยกันมานานกว่าทศวรรษ
อีกทั้งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาต้องเผชิญด่านหิน ย้อนกลับไปศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านมา พวกเขาก็ผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ แม้ต้องอยู่ร่วมกลุ่มกับเบลเยียม และ โมร็อกโก
ในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดของแต่ละกลุ่มมีโอกาสผ่านเข้ารอบ ทำให้เปอร์เซ็นต์การผ่านเข้ารอบของทีมชาติโครเอเชียยิ่งสูงขึ้น และคงผ่านรอบแรกได้แบบไม่มีปัญหา
แต่เป้าหมายของพวกเขาย่อมไม่ใช่แค่ผ่านรอบแรก และเนื่องด้วยเป็นทีมประสบการณ์สูง ทำให้จะยิ่งน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทัวร์นาเมนต์ผ่านไป
คำถามของ โครเอเชีย อยู่ที่จะทำได้ดีแค่ไหน ถ้าหากเข้าไปเจอทีมใหญ่ ซึ่งมีโอกาสเจอแน่ แต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นมาหลายครั้งว่าสู้ได้แบบไม่เป็นรอง
จึงไม่แน่ว่านี่อาจเป็นอีกครั้งที่โครเอเชียจะสอดแทรกเข้ารอบลึกๆ ได้
โปรแกรมการแข่งขัน
เสาร์ที่ 15 มิถุนายน เวลา 23.00 น. : ทีมชาติสเปน
พุธที่ 19 มิถุนายน เวลา 20.00 น. : ทีมชาติแอลเบเนีย
จันทร์ที่ 24 มิถุนายน เวลา 03.00 น. : ทีมชาติอิตาลี