นายวิทยากร มณีเนตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผลการยื่นซองประมูลข้าวโครงการรับจำนำลอตสุดท้าย ที่คงเหลือในสต๊อกรัฐจากคลังสินค้ากลางกิตติชัย (หลัง 2) และคลังสินค้า บริษัท พูนผลเทรดดิ้ง จำกัด (หลัง 4) ชนิดข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 จำนวน 15,000 ตัน ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา มีผู้ยื่นซองประมูลทั้งสิ้น 8 ราย

ทั้งนี้ ขั้นตอนต่อไป องค์การคลังสินค้าจะตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นซองเอกสาร และประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติ ในวันที่ 13 มิ.ย. 67 หลังจากนั้นวันที่ 17 มิ.ย. 67 ผู้ผ่านคุณสมบัติจะยื่นซองเสนอราคา และทาง อคส. เปิดซองเสนอราคาในวันเดียวกัน ก่อนประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลในวันที่ 21 มิ.ย. 67 ต่อไป

“ข้อกังวลที่ว่าจะไม่มีผู้มายื่นซองคุณสมบัติจึงคลายกังวลไปได้และคิดว่าทั้ง 8 รายจะมายื่นซองเสนอราคาในวันที่ 17 มิ.ย. 67 พร้อมเพรียงกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ให้เป็นไปตามกลไกตลาด ข้าวจำนวนดังกล่าว มีผู้สนใจและสามารถนำไปปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐาน เพื่อจำหน่ายไปยังตลาดเป้าหมายได้”

นายวิทยากร กล่าวว่า ประชาชนไม่ควรกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพ เพราะหากผู้ประมูลได้จะนำออกจำหน่ายก็จะต้องนำข้าวไปปรับปรุงคุณภาพเสียก่อนและผ่านการตรวจสอบคุณภาพข้าวหอมมะลิโดยกรมการค้าภายใน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค  และถ้าผู้ประมูลได้จะส่งออกข้าวก็จะต้องผ่านการตรวจสอบทางกายภาพและสารปนเปื้อนหรือสารพิษอย่างละเอียด

รายงานข่าวจากวงการค้าข้าว เผยว่า บรรยากาศการเปิดยื่นซองประมูลข้าว 10 ปี ซึ่งเป็นข้าวลอตสุดท้ายจากโครงการจำนำข้าว มีความคึกคักกว่าที่คาดไว้ โดยเดิมวงการค้าข้าวคาดจะมีผู้ยื่นประมูลซอง 4-5 ราย ตามจำนวนรายที่ไปตรวจดูข้าวในโกดัง แต่ตอนนี้มี 8 รายซึ่งมากกว่าที่ประเมิน โดยผู้ยื่นซองประมูล มีทั้งผู้มีใบอนุญาตส่งออก และผู้ค้าในประเทศ ทำให้คาดว่าจะมีการแข่งขันด้านราคากันพอสมควร เนื่องจากสภาพข้าวลอตนี้ยังดีอยู่ สามารถนำไปส่งออก หรือใช้บริโภคในประเทศได้