สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ว่า สำนักงานการค้าเวียดนามในฟิลิปปินส์ รายงานว่า การค้าข้าวระหว่างเวียดนามกับฟิลิปปินส์จะยังคงทรงตัวในอนาคตอันใกล้ ขณะที่รัฐบาลฟิลิปปินส์กำลังปฏิรูปสำนักงานอาหารแห่งชาติ (เอ็นเอฟเอ) และพิจารณาการแก้ไขกฎเกณฑ์การนำเข้าข้าว อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ยังไม่ส่งผลกระทบกับการส่งออกของเวียดนาม

การปรับโครงสร้างเอ็นเอฟเอที่อยู่ระหว่างดำเนินการ มีเป้าหมายเพื่อให้หน่วยงานมีเครื่องมือในการแทรกแซงตลาดข้าวโดยตรงและคุมราคาให้คงที่ นอกจากนี้ ผู้ร่างกฎหมายกำลังพิจารณาการแก้ไขกฎหมาย ม.11203 ที่เปิดเสรีการค้าข้าวในฟิลิปปินส์ เนื่องจากราคาข้าวที่สูงขึ้นมากในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่ออัตราเงินเฟ้อ โดยมาตรการก่อนหน้านี้ของรัฐบาล ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ไม่ได้ผลในการควบคุมการขึ้นราคา รวมไปถึงการดันเพดานราคา

สำนักงานการค้าเวียดนามเน้นย้ำว่า ความพยายามแทรกแซงตลาดของเอ็นเอฟเอ มุ่งเป้าไปที่ข้าวคุณภาพต่ำที่บริโภคโดยชาวฟิลิปปินส์ผู้มีรายได้น้อยเป็นหลัก และจะไม่ขัดขวางตลาดข้าวพรีเมียมที่มีสถานะที่แข็งแกร่ง

ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามเป็นซัพพลายเออร์ข้าวรายใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 72% ของการนำเข้าธัญพืชทั้งหมดของประเทศ โดยเป็นผลมาจากความนิยมของข้าวพันธุ์เวียดนาม เช่น ดีที8 และ 5451 ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มและราคาถูก “ข้าวเวียดนามตอบสนองความต้องการของฟิลิปปินส์ด้วยเหตุผลทางคุณภาพ, ความหลากหลาย และราคาที่ไม่แพงเกินไป” นายฟุง วัน ทัญ ที่ปรึกษาการค้าของสำนักงานการค้าเวียดนามในฟิลิปปินส์

ข้าวเวียดนามมีความสม่ำเสมอทั้งในด้านปริมาณและราคา ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการนำเข้าประจำปีของฟิลิปปินส์ และความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์ยังส่งผลต่อความคุ้มค่าในการขนส่ง มากไปกว่านั้น ข้าวเวียดนามยังมีความได้เปรียบทางการค้าเพราะข้อตกลงทวิภาคีและพหุภาคี เช่น ข้อตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (เอทีไอจีเอ) และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ซึ่งมอบสิทธิประโยชน์แก่ผู้ส่งออกข้าวที่ไม่ใช่ประเทศสมาชิกอาเซียน เช่น อินเดีย และปากีสถาน

ในอนาคต นายทัญแนะนำผู้ส่งออกข้าวเวียดนาม ให้ความสำคัญกับการรักษาตำแหน่งในตลาดฟิลิปปินส์ ซึ่งสามารถทำได้ ผ่านความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และหน่วยงานของเวียดนามในฟิลิปปินส์ เช่น สถานทูตและสำนักงานการค้า เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย นอกจากนี้ ควรสำรวจศักยภาพของข้าวคุณภาพปานกลางและต่ำ เพื่อตอบสนองผู้บริโภคในวงกว้างด้วย.

เครดิตภาพ : AFP