เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 10 มิ.ย. ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของ หนุ่ม กะลา ให้สัมภาษณ์กรณี จูน เพ็ญชุลี อดีตภรรยาของนักร้องหนุ่ม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้  ว่า ภรรยาของหนุ่มกะลา ฟ้องมือที่ 3  ซึ่งตนเป็นทนายความส่วนตัว และมาตรวจคำเบิกความของทนาย ซึ่งคุณจูนเบิกความให้ข้อมูลว่า สามีมีรายได้ปีละ 30,000,000 บาท ซึ่งมันขัดแย้งกับงบการเงิน ที่เอามาเปิดเผยในโซเชียลมีเดีย มีแค่ 14,000,000 บาทเท่านั้น มีความต่างกันอยู่กว่า 2 เท่า จึงมีการตั้งคำถามว่า เป็นการเบิกความเท็จหรือไม่ เป็นการเข้าใจผิด หรือทนายให้ข้อมูลผิด เพราะตัวเลขค่อนข้างต่างกัน มีผลต่อการเรียกค่าทดแทนในคดีชู้

ส่วนที่ ภรรยาหนุ่ม บอกว่า 30,000,000 นั้นเป็นตัวเลขกลมๆ ซึ่งการเบิกความ ไม่สามารถเบิกความแบบบ้าน้ำลายได้ ต้องมีที่มาที่ไปและตัวเลขชัดเจน อะไรที่มันไม่เป็นความจริง ไม่สามารถเบิกความได้  ที่ตนออกมาพูดนั้น ไม่ได้คิดว่าการที่ออกมาพูดเรื่องนี้มันจะกระทบกับปัญหาครอบครัว เพราะว่าปัญหาครอบครัวมีมานานแล้ว เนื่องจากทั้งคู่ไม่ได้คุยกัน มีเพียงแค่คุยเรื่องรายละเอียดค่าใช้จ่ายแต่อยากฝากถึงภรรยาหนุ่มว่า อย่าเอาลูกมาออกโซเชียล ถ้าหากว่าเรารักเด็กจริง เพราะมันมี พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มาตรา 27 อยู่ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

มองว่า กรณีดังกล่าวสามารถไกล่เกลี่ยได้ แต่อยากให้ภรรยาหยุดให้สัมภาษณ์สื่อ หยุดออกรายการแล้วพูดเรื่องภายในครอบครัว เพราะว่ามันไม่ควรเอามานำเสนอสู่สาธารณะ โดยเฉพาะหนุ่ม กะลา เป็นบุคคลสาธารณะ พอบอกว่ามีเมียน้อย นอกใจ ก็กระทบต่อชื่อเสียง ต่อรายได้ก็ไม่มีเงินไปให้ครอบครัวมากกว่า ควรไปคุยกับที่ศาล และเวลาออกมาให้สัมภาษณ์ก็ขอให้พูดความจริง ไม่ใช่เอาแต่ดราม่า มองว่าเรื่องนี้สามารถคุยกันได้ แต่อีกฝ่ายไม่ได้ติดต่อมาเลย ถ้าหากยังไม่หยุด ก็คงพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย ทนายเดชา กล่าวและว่า ทั้งนี้ ทางทีมทนายได้ตรวจสอบแล้วว่าเงินที่ถอนออกไปทั้งหมด 66 ล้าน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายที่อ้างว่ามีต่อเดือน 700,000 บาท เพราะว่ามันคนละก้อนกัน

‘หนุ่ม กะลา’ รับตรงไปตรงมาเป็นคนบื้อๆ เล่าตอนยังไม่รวย ‘จูน’ ก็เอาเงินแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ หนุ่ม กะลา เครียดมาก แล้วจะไปบวช 15 มิ.ย. นี้แล้ว ซึ่งเงื่อนไข หากอีกฝ่ายติดต่อมาขอเจรจา ก็สามารถพูดคุยกันได้ ทรัพย์สินแบ่งคนละครึ่ง

ขอบคุณเพจโหนกระแส