นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 (มี.ค.-มิ.ย.) ตลาดเอเชียได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจของประเทศต้นทางที่ยังไม่ฟื้น ทำให้ไม่มีการเงินเหลือเพื่อใช้ในการเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาด จีน ญี่ปุ่น ส่งผลให้แนวโน้มทั้งปีของนักท่องเที่ยวเอเชียโตไม่ถึงเป้าหมายที่คาดไว้  และมีหลายตลาดออกมาตรการกระตุ้นประชากรให้เที่ยวในประเทศ อย่างเช่นรัฐบาลจีน ใส่เงินจำนวนมหาศาลเพื่อกระตุ้นการเดินทางในประเทศให้คนจีนเที่ยวในจีนมากขึ้น ทำให้ช่วงที่ผ่านมา จีนเดินทางออกนอกประเทศน้อยลง รวมทั้งเดินทางมาไทยไม่มาก

ทั้งนี้ หลายตลาดในเอเชียไม่ได้แย่ทั้งหมด เพราะจะมีบางประเทศที่จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเกินเป้าจำนวนที่ตั้งไว้ อาทิ สิงคโปร์ ไต้หวัน อินเดีย อินโดนีเซีย โดยประเมินจากสถิติการเดินทางเข้ามาในปัจจุบัน ทำให้หากแนวโน้มการเดินทางเฉลี่ยต่อเดือนยังสูงกว่าเป้าหมายที่ ททท. คาดการณ์ไว้ มั่นใจว่าจำนวนสะสมทั้งปีของตลาดเหล่านี้จะเกินเป้าหมายแน่นอน แต่ก็ไม่ได้สร้างจำนวนนักท่องเที่ยวให้ไทยได้เท่ากับตลาดจีน ญี่ปุ่น ขณะที่ตลาดอินเดียดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยสถิติล่าสุดไต่ระดับขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 

“ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคที่ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวไม่ถึงเหมายที่รัฐบาลตั้งไว้คือ 3.5 ล้านล้านบาท ส่วนหนึ่งเกิดจากเศรษฐกิจเอเชียยังเติบโตไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ หลายประเทศหันมาใช้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อย่างเช่น จีน ดังนั้นไทย โดยรัฐบาลอาจต้องกระตุ้นการเดินทางเพิ่มขึ้นผ่านมาตรการต่างๆ ให้เป้ายหมายที่ ททท. คาดว่าจะทำได้เพิ่มขึ้นสู่เป้าหมายรัฐบาล“

นายฉัททันต์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราหรือยกเว้นวีซ่าเป็นการถาวรให้กับจีน ถือว่าเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้น แต่ด้วยปัจจัยอื่นๆ อาทิ คู่แข่งการตลาดจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้นักท่องเที่ยวจีนยังโตต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ อย่างจุดหมายปลายทางของภูมิภาคอาเซียน ตอนนี้หลายคนจะพูดถึงตลาดเวียดนามมากขึ้น

นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท. กล่าวว่า ททท. เตรียมทาบทาม 4 อินฟลูเอนเซอร์ดังของจีนเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ในโอกาสเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน ครบรอบ 50 ปี โดยจะเริ่มคิกออฟตั้งแต่เดิน ก.ค. 2567 ที่จะมีการนำตัวมาสคอต “ลาบูบู้ ไทยแลนด์ เอดิชัน” ต่อด้วยงานหนีห่าวมันท์ ในช่วงเดือน ต.ค. ซึ่งตรงกับวันชาติจีน พร้อมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพื่อสร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวของชาวจีน และจะมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องไปจนถึงช่วงต้นปี 2568 ที่จะมีเทศกาลตรุษจีนและวันครบรอบความสัมพันธ์ไทย-จีน ด้วย

สำหรับอินฟลูเอนเซอร์ที่จะแต่งตั้งให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อยู่ระหว่างการทาบทาม โดยเบื้องต้นมีการพูดคุยอยู่ 4 คน คือ จ้าวลู่ซือ หวังอี้ป๋อ เซียวจ้าน และไป๋ลู่ ซึ่งจะมีการเปิดตัวในช่วงเดือน ต.ค. เป็นช่วงวันชาติจีนพอดี ที่จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่

อย่างไรก็ตามช่วงเดือน มิ.ย. นี้ ต้องยอมรับยอดนักท่องเที่ยวจีนต้องลดลง เพราะเป็นเดือนที่จะมีการสอบเอนทรานซ์ (เกาเข่า) เป็นการสอบครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของเด็กนักเรียนจีน ซึ่งโอกาสสอบมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น พ่อ แม่ผู้ปกครองจะให้ความสำคัญมาก จะไม่เดินทางไปไหน จะอยู่ให้กำลังใจลูก หลังจากนั้นในช่วงเดือน ก.ค. จะเริ่มเห็นการเดินทางท่องเที่ยวของจีนแล้ว คาดว่าจะมีการเดินทางเพิ่มขึ้น ไทยต้องเตรียมรับการทะลักเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีน หลังจากอั้นการเดินทางไปก่อนหน้านี้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องแล้วแต่มาตรการกระตุ้นของฝ่ายไทยด้วย