ถ้าพูดถึงหนึ่งในศิลปินระดับตำนานของเมืองไทย คงขาดเขาคนนี้ไปไม่ได้ “ติ๊ก ชิโร่” ศิลปินขวัญใจแฟนเพลงยุค 90 ที่เป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ที่สร้างชื่อมานาน เจ้าของบทเพลงดังมากมาย ล่าสุดเขามาออกรายการ Club Friday Show และเล่าเรื่องราวที่หลายคนอยากรู้มากมาย


ติ๊ก ชิโร่ เผยว่า “เอาจริงๆก่อนมาเป็นนักร้องที่บ้านผมเขาอยากให้ผมเป็นทนายอะไรประมาณนี้ครับ ถ้าติ๊กไม่เรียนแล้วไปเล่นดนตรีก็ออกไปจากบ้านเลย คือ ถึงขนาดที่ว่าครอบครัวให้เราแยกไปเลยไม่ให้ใช้นามสกุลเลย คือ ผมนั่งร้องไห้ ใจเราก็ไม่อยู่แล้วโดดเรียนเลยตอนนั้น ผมเองเข้าวงการมามีสาวๆแอบชอบนะ ผมไม่เคยเปิดเผยที่ไหนเลยครับ แต่เขาก็รู้นะครับว่าผมชอบเขาเพราะว่าผมเคยบอกเขา แต่ผมโดนกีดกันครับ เพราะคุณแม่เขาคือ ฉันทนา กิติยพันธ์ เพราะคนที่ผมแอบชอบคือ แอม-เสาวลักษณ์ ลีละบุตร ผมก็ถามเขานะทำไมไม่รับรักข้า เขาก็บอกเราว่าจะไปรู้เหรอว่าพอโตมาจะกลายมาเป็นนักร้องดังถ้ารู้แบบนี้ข้าแต่งงานกับเองไปแล้ว (หัวเราะ) ตอนมาเจอภรรยาคนนี้เหมือนเป็นพรหมลิขิตให้คนๆหนึ่งเดินมา เขาก็อายุเยอะแล้วนะครับ ขอลายเซ็นหน่อยจะเอาไปลูกสาว แล้วผมก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนเรียก แม่ (แล้วคุณอ้อ เขาก็เดินมา) ผมก็ถามว่าคุณป้าครับนั่นลูกคุณป้าเหรอครับ แล้วผมก็ขอเบอร์ที่บ้านเขาไว้เลย แบบผมคือตกหลุมรักเขาแบบโงหัวไม่ขึ้นเลย คิดอยู่อย่างเดียวอยากแต่งงานกับคนนี้”

“มีตอนที่บอกเลิกด้วยคือเป็นเรื่องของจดหมายของแฟนเพลง คือ ผมคิดไว้ว่าเมื่อวันหนึ่งที่ผมมีชื่อเสียงแล้วผมอยากจะเขียนจดหมายกลับไปหาพวกเขาเหล่านี้ แล้วคืออยู่มาวันหนึ่งคุณอ้อ เขาก็เอาไปเผา คงเพราะจดหมายอาจจะเสียหายโดนน้ำโดนปลวกอะไรอย่างนี้ครับ แต่ตอนนั้นคือ เรารู้สึกว่าอย่างนี้ไม่ดีเราก็รู้สึกว่าไม่พอใจก็เลยบอกเลิก ส่วนเรื่องติดหนี้หลายล้าน ตอนนั้นนำเข้าสินค้าแล้วมีการเปลี่ยนแปลงค่าเงินบาทจาก 30 เป็น 55 ผมเจ๊งทันทีเลย ตอนจ่ายเงินผมคือน้ำตาไหลเลยว่าทำไมชีวิตเราทำไมมันต้องอย่างนี้ ภรรยาผมก็บอกว่าพ่อเรากลับเยอรมันเถอะ อ้อ จะดูแลพ่อเองวันนี้เรามาถึงทางตันแล้ว ผมก็คิดนะ ติ๊ก นายเป็นหัวหน้าครอบครัว นายเป็นผู้ชายถ้านายจะไปตรงนั้นนายต้องไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ก็เลยสู้ต่อขายอะไรได้ก็ต้องขายรับงานทุกอย่างทั้งกลางวัน กลางคืนมันก็ต้องต่อสู้จนใช้หนี้ใช้สินหมด”

“ส่วนล่าสุดข่าวรักร้าวและแรง ผมตกใจและแปลกใจมากเลยครับ ว่ามันเกิดขึ้นมาได้ยังไง จะให้ผมไปตรวจ DNA ลูกอันนี้เริ่มจะไม่ค่อยดีแล้ว หลายๆคนโกรธแทนผมด้วยซ้ำไปว่าจะเอาเด็กๆเข้ามายุ่งเกี่ยวทำไม ลูกก็ต้องเป็นลูกผมสิเพราะว่าผมก็อยู่กับภรรยามา สำหรับข่าวนี้มันทำให้สถาบันที่ผมรัก โดยเฉพาะพ่อแม่ผมก็เจ็บปวดไปด้วย แล้วผมคิดว่ามันสั่นคลอนและผมต้องบอกตรงนี้เลยนะครับ บ้านผมไม่มีสวน”