เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ว่า ทักษิณเริ่มหางโผล่อีกแล้ว ตนติดตามนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในงานบวชที่ จ.ปทุมธานี ในประเด็นการเมือง นับว่าเป็นสัญญาณของระบอบทักษิณที่ส่งถึงกลุ่มอนุรักษนิยมได้อย่างชัดเจน คือ 1.ระบอบทักษิณกำลังคืนชีพ ได้กุมอำนาจรัฐเบ็ดเสร็จ นายทักษิณกำลังคืนฟอร์มเป็นทักษิณคนเดิม ได้เปรียบทางการเมืองเมื่อไหร่ รุกไล่ฝ่ายตรงข้ามทันที พูดจาแบบไม่แคร์ใครทั้งนั้น 2.นายทักษิณทำตัวเป็นบุคคลที่อยู่เหนือกฎหมายไม่มีใครทำอะไรได้ บอกว่าป่วยจึงไม่ไปฟังคำสั่งของอัยการสูงสุด เมื่อหายป่วยขึ้นมาก็ไปสปานวดหน้า หรือจะไปร่วมงานบวช โดยไม่ต้องเกรงใจใคร หรือเก็บเนื้อเก็บตัวแบบคนที่อยู่ระหว่างการพักโทษ 3.การให้สัมภาษณ์ในลักษณะแบบยิงหมัดตรง ไม่ไว้หน้ากลุ่มอนุรักษนิยมที่เคยทำรัฐประหาร โดยกล่าวหาว่าได้ยัดเยียดความผิดข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

นายเทพไท ระบุอีกว่า 4.นายทักษิณกล่าวพาดพิงดูถูกผู้ใหญ่ในบ้านป่ารอยต่อ ว่าออกมาวุ่นวาย เหมือนกับไม่เห็นความสำคัญ และไม่ให้ราคาคนกลุ่มนี้เลย 5.นายทักษิณพยายามชี้ให้สังคมเห็นว่ากลุ่มอำนาจเก่ายังใช้กลไกของ สว.เล่นงานรัฐบาลชุดนี้ และพยายามพาดพิงถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยไม่ได้เกรงใจพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ 6.นายทักษิณปฏิเสธอย่างหน้าตาเฉยว่าไม่มีดีลการเมืองกับใคร ทั้งที่การกลับมาประเทศไทย และไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว เป็นผลมาจากการดีลลับทั้งสิ้น 7.นายทักษิณไม่เคยยอมรับว่าตัวเองได้กระทำความผิดอะไรไว้บ้าง กล่าวอ้างว่าเกิดจากผลไม้พิษของรัฐประหาร ถูกกลั่นแกล้งบ้าง ถูกยัดข้อหาให้ทุกอย่างบ้าง ทั้งที่ความจริงที่เกิดขึ้น เป็นที่รับรู้ของสังคมว่านายทักษิณได้ทำอะไรไว้กับชาติบ้านเมืองจนต้องติดคุก

“การแสดงออกของคุณทักษิณเป็นปรากฏการณ์ที่สื่อให้เห็นว่าคุณทักษิณมั่นใจในอำนาจทางการเมืองของตัวเอง เหมือนกับได้ยาดี หรือได้รับสัญญาณอะไรบางอย่างหรือไม่ ดูเหมือนมั่นใจว่าสามารถควบคุมอำนาจรัฐได้เบ็ดเสร็จ รอดพ้นทุกคดี กำลังท็อปฟอร์มหรือพาวเวอร์ฟูลเหมือนกับยุคระบอบทักษิณในอดีตอีกครั้ง” นายเทพไท ระบุ