นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (7 ต.ค.64) พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 9 จังหวัด 21 สายทาง รวม 44 แห่ง การจราจรผ่านได้ 25 แห่ง ผ่านไม่ได้ 19 แห่งดังนี้ 1.จ.ขอนแก่น (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.2 ท่าพระ-ขอนแก่น ช่วง กม.ที่ 329 +913 (จุดกลับรถใต้สะพานบ้านกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 280 ซม. และ ทล.2131 บ้านสะอาด-เหล่านางงาม ช่วง กม. 6+800-8+500 ระดับน้ำสูง 90-100 ซม. ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 2062 บ้านทุ่ม-มัญจาคีรี กม.0 ไปออกทางหลวงหมายเลข 12 บ้านฝาง-ขอนแก่น กม.540 เข้าเมืองขอนแก่น
2.นนทบุรี (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.16+950 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางแพรกมุ่งหน้าแคราย) ระดับน้ำสูง 30 ซม. ใช้จุดกลับรถต่างระดับบางใหญ่ที่ กม.18+500 ทดแทน และ ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.17+000 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางแพรกมุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษก) ระดับน้ำสูง 30 ซม. ใช้จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางไผ่ที่ กม.16+600 ทดแทน
3.อ่างทอง (ผ่านไม่ได้ 5 แห่ง) ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 150 ซม. จุดกลับรถผ่านไม่ได้ ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน, ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.33+200 จุดกลับรถใต้ท่อ Box Cul.(วัดค่าย) ระดับน้ำสูง 80 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน, ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.39+843 (จุดกลับรถวัดดอกไม้) ระดับน้ำสูง 59-55 ซม. จุดกลับรถผ่านไม่ได้ ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน
ทล.32 อ่างทอง-ไชโย ช่วง กม.57+500 จุดกลับรถบางศาลา ระดับน้ำสูง 130-150 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน และ ทล.33 นาคู-ป่าโมก ช่วง กม.36+000-36+400 (จุดกลับรถใต้สะพานฝั่งป่าโมก) ระดับน้ำสูง 40 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน 4.ลพบุรี (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.3019 สามแยกโคกกระเทียม-สถานีรถไฟโคกกระเทียม ช่วง กม.1+750-กม.1+825 ระดับน้ำสูง 35 ซม. ทางเลี่ยงใช้ทางท้องถิ่นแทน และ ทล.3024 บ้านหมี่-เขาช่องลม ช่วง กม.5+600-7+300 ระดับน้ำสูง 100 ซม. ทางเลี่ยงใช้ทางท้องถิ่นแทน
5.กำแพงเพชร (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.1117 คลองแม่ลาย-อุ้มผาง ช่วง กม.89+100 ดินสไลด์ และ ทล.1117 คลองแม่ลาย-อุ้มผาง ช่วง กม.93+155 ดินสไลด์ 6.พระนครศรีอยุธยา (ผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) ทล.347 บางกระสั้น-บางปะหัน ช่วง กม.40+860 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) ระดับน้ำสูง 50 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน, ทล.3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน ช่วง กม.10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 175 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน
และ ทล 3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน ช่วง กม.11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 175 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน 7.สุพรรณบุรี (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.33 สุพรรณบุรี-นาคู ช่วง กม.9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 70 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน และ ทล.340 สาลี-สุพรรณบุรี กม.59+674 (สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม) ระดับน้ำสูง 100 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน
และ 8.นครสวรรค์ (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.1 บ้านหว้า-วังไผ่ ช่วง กม. 339+600 ใต้สะพานเดชาติวงศ์ ระดับน้ำสูง 80 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน ทั้งนี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือพายุดีเปรสชัน “ไลออนร็อก” ในช่วงนี้ โดยให้ติดตามการเตือนภัยของกรมอุตุนิยมวิทยาและศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ดำเนินการตามแผนป้องกันสาธารณภัยอย่างเคร่งครัด และมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงทีในการป้องกัน, การฟื้นฟู และการเยียวยาหลังสถานการณ์คลี่คลายในทุกมิติ
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่คาดว่าจะเกิดความสุ่มเสี่ยง พร้อมขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร ต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฯ ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) ติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1