สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ว่า ความแห้งแล้ง, คลื่นความร้อน และศัตรูพืชที่เจริญเติบโตในสภาพอากาศร้อนและแห้ง ขัดขวางการเจริญเติบโตของต้นกาแฟเวียดนาม ส่งผลให้เมล็ดกาแฟที่ใช้ในกาแฟสำเร็จรูปลดลง

เวียดนามเป็นผู้ผลิตกาแฟโรบัสต้าชั้นนำของโลก เมล็ดกาแฟเหล่านี้ถูกใช้ในผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูป และแบรนด์อาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม นายเหวียน นาม ไห่ ประธานสมาคมกาแฟและโกโก้ของเวียดนาม (วิโคฟา) ระบุว่า เมล็ดกาแฟปี 2567-2568 ที่จะเริ่มเก็บเกี่ยวในเดือน ต.ค. นี้ มีแนวโน้มว่าจะมีน้อยกว่าปกติถึงร้อยละ 15-20 “ความร้อนและความแห้งแล้งกระทบต่อการเติบโตของต้นกาแฟ” เขากล่าว โดยเกษตรกรต้องพยายามอย่างหนักในการหาแหล่งน้ำทางเลือก

จังหวัดซาลาย ทางตอนกลางของเวียดนาม ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาราบสูง และคือหัวใจของภูมิภาคปลูกกาแฟในเวียดนาม กำลังเผชิญกับอุณหภูมิสูงและปริมาณน้ำฝนต่ำ ที่เอื้อให้ศัตรูพืชเจริญเติบโต “ความร้อนที่ลุกไหม้ ทำให้กิ่งกาแฟเสียหาย, ผลกาแฟหดตัว และส่งผลเสียต่อคุณภาพ” นายไห่กล่าว

เวียดนามผลิตกาแฟโดยเฉลี่ยประมาณ 1.8 ล้านตันต่อปี และครึ่งหนึ่งส่งออกไปยังยุโรป โดยสโตน เอ็กซ์ บริษัทวิจัยตลาดของสหรัฐ คาดการณ์ว่า ผลผลิตกาแฟในเวียดนามในปีนี้อาจอยู่ที่ 1.4 ล้านตัน ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากเวียดนามตอนกลางและใต้เผชิญกับอุณหภูมิสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์หลายสัปดาห์ และไม่มีฝนตกตลอดเดือน มี.ค.-เม.ย. อย่างไรก็ดี เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เวียดนามมีฝนตกบ้าง แต่นายไห่เชื่อว่ามันยัง “ไม่เพียงพอ”

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดความกังวลอย่างจริงจัง ต่ออุตสาหกรรมกาแฟที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 36,785 ล้านบาท) นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า ผลผลิตจะน้อยลง และพื้นที่เหมาะสมแก่การปลูกกาแฟจะลดลงเช่นกัน

อย่างไรก็ดี เมล็ดพันธุ์โรบัสต้าสามารถรับมือกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นได้ดีกว่า เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างอาราบิก้า แต่เวิลด์ คอฟฟี รีเสิร์ช เคยรายงานว่า โลกอาจเผชิญกับการขาดแคลนกาแฟโรบัสต้า มากถึง 35 ล้านถุง ภายในปี 2583 เนื่องจากแนวโน้มการบริโภคที่เพิ่มขึ้น และผลกระทบของวิกฤติสภาพภูมิอากาศ จะทำให้พื้นที่ซึ่งเหมาะสมกับการปลูกกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า ลดลงถึงครึ่งหนึ่งภายในปี 2593

ราคากาแฟทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้ ซึ่งหมายความว่า เกษตรกรเวียดนามจะสามารถสร้างรายได้ต่อกิโลกรัมมากขึ้นเพียงเล็กน้อยในระยะอันสั้น “อย่างไรก็ตาม ปริมาณผลผลิตโดยรวมมีไม่มากนักเพราะภัยแล้ง” นายไห่ทิ้งท้าย.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES